|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค ๐๗๐๒/๔๓๘๓ |
วันที่ |
: ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินได้จากการเป็นตัวแทนประกันภัย |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา ๔๐ (๒) (๘) |
ข้อหารือ |
๑. นางสาว ส. ประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ประเภทการจัดการประกันวินาศภัยโดยตรง
๒. นางสาว ส. ได้ทำสัญญาซื้อที่ดินพร้อมตึกแถว โดยทำสัญญาซื้อร่วมกับนาย ส. และนางสาว ภ พร้อมทั้งได้ทำสัญญาจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวกับธนาคาร
๓. นางสาว ส. ได้ใช้ตึกแถวที่อยู่บนที่ดิน ในการดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัย โดยเปิดเป็นสำนักงานประกันวินาศภัย (สำนักงานฯ)ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในปี ๒๕๕๘ พบว่า มีรายการค่าใช้จ่าย ๘ รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๗๐,๓๒๘.๑๗ บาท
๔. เมื่อปีภาษี ๒๕๕๘ นางสาว ส มีรายได้จากค่านายหน้ารวมทั้งปีจำนวน ๗๐๔,๙๗๒.๒๑ บาท และได้นำไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด.๙๔) เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๘ โดยแสดงเงินได้จำนวน ๒๒๗,๐๑๘.๓๗ บาท หักค่าใช้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ๕๔,๗๒๔.๘๘ บาท คงเหลือ ๑๗๒,๒๙๓.๔๙ บาท และได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.๙๐) เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๙ และเนื่องจากเงินได้จำนวนดังกล่าวยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม นางสาว ส จึงไม่ได้ยื่นคำขอเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด
๕. นางสาว ส. ได้มีหนังสือหารือว่า รายได้ค่านายหน้าในปีภาษี ๒๕๕๘ เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐(๘) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งสามารถหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควรได้หรือไม่ อย่างไร
|
แนววินิจฉัย |
เงินได้ที่นางสาว ส. ได้รับจากการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนตามกฎหมายว่าด้วยการรับประกันวินาศภัยหรือกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต เป็นเงินได้ตามมาตรา ๔๐(๒) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ นั้น มาตรา ๔๒ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตราร้อยละ ๔๐ แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐(๑) แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว ต้องไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท
อย่างไรก็ดี กรณีที่นางสาว ส. มีหลักฐานในการประกอบกิจการให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า ได้ประกอบกิจการในรูปแบบของการทำธุรกิจและสามารถพิสูจน์รายจ่ายในการประกอบกิจการได้ ซึ่งต้องมีลักษณะการประกอบกิจการดังนี้
๑. ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน และ
๒. ได้จัดตั้งเป็นสำนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีอาคารสำนักงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองหรือเช่าจากบุคคลอื่น โดยมีหลักฐาน เช่น หลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ สัญญาเช่าสำนักงาน และ
๓. มีการลงทุนด้วยการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ มีค่าใช้จ่ายสำนักงาน และ
๔. มีการจ้างลูกจ้างหรือพนักงานในการประกอบกิจการ โดยมีหลักฐานตามสัญญาจ้างแรงงาน หลักฐานการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และหลักฐานการแสดง
การหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่ง ในกรณีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่มีภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายและนำส่ง จะต้องมีหลักฐานเกี่ยวกับการยื่นรายการเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานตามแบบ ภ.ง.ด.๑ ก.
๕. มีค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ เช่น ค่ารับรอง หรือค่าบริการเพื่อประโยชน์ในการติดต่องานกับลูกค้า และ
๖. มีหนังสือรับรองจากบริษัทประกันชีวิตว่าไม่มีการจ่ายเงินชดเชยหรือออกค่าใช้จ่ายแทนให้
ค่าตอบแทนที่นางสาว ส. ได้รับจากการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนตามกฎหมายว่าด้วยการรับประกันวินาศภัยหรือกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตดังกล่าว ย่อมเข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา ๔๐(๘) แห่งประมวลรัษฎากร และในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร โดยให้นำมาตรา ๖๕ ทวิ และมาตรา ๖๕ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้บังคับโดยอนุโลม
|
เลขตู้ |
: ๘๐/๔๐๔๒๐ |

|
|
Last update : Friday, August 11, 2017
|
|
|
|