เลขที่หนังสือ |
: กค ๐๗๐๒/พ./๗๕๘๓ |
วันที่ |
: ๒๗ กันยายน ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา ๘๒/๓ และมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
๑. ธนาคารฯ ได้เช่าพื้นที่อาคาร พ. กับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (กองทุนฯ) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบด้วยสามสัญญา คือ สัญญาเช่าพื้นที่ สัญญาจ้างบริการ และสัญญาเช่าอุปกรณ์
๒. กองทุนฯ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๔ (๑๐) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความ ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๔๐๑) พ.ศ. ๒๕๔๕
๓. ต่อมามาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๖๐๘) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้กำหนดให้ยกเลิก (๑๐) ของมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ประกอบกับคำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ลงวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๐ ซึ่งมีผลเป็นการยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของกองทุนรวมดังกล่าวข้างต้น
๔. กองทุนฯ ได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มตามสัญญาจ้างบริการ และสัญญาเช่าอุปกรณ์ จากธนาคารฯ ซึ่ง สัญญาเดิมไม่ได้มีการกล่าวถึงภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับธนาคารฯ เป็นรัฐวิสาหกิจ ภายใต้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐
|
แนววินิจฉัย |
กรณีธนาคารฯ ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน มีรายรับจากดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ จากการซื้อหรือขาย หรือที่ได้จากตั๋วเงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ และกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ จากการแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายเงินตรา การออกตั๋วเงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ หรือ การส่งเงินไปต่างประเทศ เข้าลักษณะเป็นรายรับที่ธนาคารได้รับหรือพึงได้รับจากการประกอบกิจการธนาคารรายรับดังกล่าวอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา ๙๑/๕(๑) และมาตรา ๙๑/๒(๑) แห่งประมวลรัษฎากร
อนึ่ง พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้บัญญัติยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่การประกอบกิจการขายสินค้าและการให้บริการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินซึ่งได้รับความเสียหายจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี ๒๕๔๐ ซึ่งในปัจจุบันการดำเนินการได้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์แล้ว จึงกำหนดให้มีการยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายสินค้าและ การให้บริการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว อย่างไรก็ดี กรณีสัญญาเช่าพื้นที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๑ (๑) (ต) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับกรณีสัญญาจ้างบริการ และสัญญาเช่าอุปกรณ์เป็นการให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๗๗/๒ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร หากกองทุนฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กองทุนฯ มีสิทธิเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้รับบริการ เมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตามมาตรา ๘๒/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ธนาคารฯ ผู้รับบริการจะต้องถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีซื้อที่ธนาคารฯ ได้จ่ายไปเนื่องจากการรับบริการดังกล่าวถือเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการไม่ต้องห้ามตามมาตรา ๘๒/๕ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร หากธนาคารฯ ประกอบกิจการ ซึ่งมีทั้งกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และธนาคารฯ ไม่สามารถแยกได้อย่างชัดแจ้งว่าภาษีซื้อที่เกิดจากสินค้าหรือบริการดังกล่าวเป็นภาษีซื้อของกิจการประเภทใด ให้เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของแต่ละกิจการ โดยธนาคารฯ มีสิทธินำภาษีซื้อที่เฉลี่ยได้สำหรับกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไปหักออกจากภาษีขายได้ตามมาตรา ๘๒/๓ และมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร
|
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๘๑๕ |