ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประFAQ
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 


เลขที่หนังสือ : กค. ๐๗๐๒/พ./๗๔๐๓
วันที่ : ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑
เรื่อง : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการตรวจสอบและประเมินภาษีอากรของผู้ประกอบการจดแจ้งบัญชีชุดเดียว
ข้อกฎหมาย : มาตรา ๘๒/๕ (๑) และ มาตรา ๘๘/๓ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ           กรณีการตรวจสอบและประเมินภาษีอากรของผู้ประกอบการจดแจ้งบัญชีชุดเดียว ราย บริษัท ค.(บริษัทฯ)มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
          ๑. บริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ได้รับสิทธิจดแจ้ง เป็นผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
          ๒. วันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๙ บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (ค.๑๐) ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับเดือนภาษีกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ จำนวนเงิน ๒,๘๖๙,๗๙๗.๘๖ บาท
          ๓. สำนักงานสรรพากรพื้นที่(สท.) เข้าตรวจสภาพกิจการและตรวจปฏิบัติการเฉพาะประเด็นกรณีคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับเดือนภาษีกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ตามหนังสือนำตัวที่ พบว่าเป็นการขอคืนภาษีที่เครดิตติดพันยอดยกมาตั้งแต่เดือนภาษีกันยายน ๒๕๔๖ ถึงเดือนภาษีกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
          ๔. การตรวจปฏิบัติการเฉพาะประเด็นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มเติมสำหรับเดือนภาษีกันยายน ๒๕๔๖ ถึงเดือนภาษีมกราคม ๒๕๕๙ ผลการตรวจปรากฏดังนี้
               ๔.๑ บริษัทฯ นำภาษีซื้อต้องห้ามตามมาตรา ๘๒/๕ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้ในเดือนภาษีตุลาคม ๒๕๔๖ ถึงเดือนภาษีพฤศจิกายน ๒๕๔๘ และภาษีซื้อต้องห้ามตามมาตรา ๘๒/๕ (๑)แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้ในเดือนภาษีกรกฎาคม ๒๕๕๐ ถึงเดือนภาษีธันวาคม ๒๕๕๒ ส่งผลให้เครดิตภาษีที่บริษัทฯ ใช้เกินกว่าที่ควร โดยบริษัทฯ มีภาษีที่ต้องชำระเนื่องจากภาษีขายสูงกว่าภาษีซื้อเริ่มตั้งแต่เดือนภาษีมกราคม ๒๕๕๒ ถึงเดือนภาษีกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
              ๔.๒ จากผลการตรวจตามข้อ ๔.๑ บริษัทฯ มีภาษีที่ได้คืนสำหรับเดือนภาษีกุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ จำนวน ๔,๕๐๘.๑๓ บาท ภาษีที่ไม่ได้คืนจำนวน ๒,๘๖๕,๒๘๙.๗๓ บาท และมีภาษีอากรที่ต้องประเมินสำหรับเดือนภาษีมิถุนายน ๒๕๕๕ ถึงเดือนภาษีกันยายน ๒๕๕๕ เดือนภาษีพฤศจิกายน ๒๕๕๕ ถึงเดือนภาษีกันยายน ๒๕๕๗ และเดือนภาษีพฤศจิกายน ๒๕๕๗ ถึงเดือนภาษีธันวาคม ๒๕๕๘ รวมจำนวนภาษีที่ต้องชำระ ๑,๑๓๔,๓๕๕.๗๗ บาท และเงินเพิ่มคำนวณถึงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ จำนวน ๖๑๒,๕๖๓.๑๓ บาท รวมภาษีและเงินเพิ่ม ๑,๗๔๖,๙๑๘.๙๐ บาท
          ๕. สท. ได้แจ้งผลการตรวจต่อบริษัทฯ เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๐ และได้แนะนำให้บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.๓๐ เพิ่มเติมเพื่อชำระภาษีและเงินเพิ่มตามผลการตรวจข้อ ๔.๒ แต่บริษัทฯ ไม่ยินยอม
          ๖. ต่อมา เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ สท. ได้ขออนุมัติประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มต่อ สรรพากรภาค (สท.) โดยใช้อำนาจตามมาตรา ๘๘/๖ วรรคท้าย แห่งประมวลรัษฎากร และเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๐สภ. ได้อนุมัติให้ใช้อำนาจการประเมินดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า แม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่ส่วน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความรับผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากรตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. ๒๕๕๘ แต่บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอคืนภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร เจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจทำการตรวจสอบภาษีอากรที่ขอคืน ไต่สวน และประเมินภาษีอากรได้ ตามมาตรา ๕ แห่งพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. ๒๕๕๘
แนววินิจฉัย            ๑. บริษัทฯ จดแจ้งเป็นนิติบุคคลที่ได้รับยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร ตามพระราชกำหนดฯ และปัจจุบันไม่พบข้อมูลการถูกเพิกถอนสิทธิแต่อย่างใด จึงได้รับยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันเริ่มต้นก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ หรือมูลค่าของฐานภาษี รายรับ หรือการกระทำตราสารที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ สท. จึงไม่มีอำนาจการประเมินภาษีหรือสั่งให้เสียภาษีอากรสำหรับมูลค่าของฐานภาษีที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ แต่มีอำนาจประเมินตามผลการตรวจตั้งแต่เดือนภาษีมกราคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกำหนดฯ และข้อ ๔ (๒) ของคำชี้แจงกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๙
          ๒. กรณีผลการตรวจสอบบริษัทฯ มีภาษีซื้อต้องห้ามตามมาตรา ๘๒/๕ (๑) และ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร มาหักจากภาษีขาย บริษัทฯ จึงมีภาษีซื้อยื่นไว้เกินไป ซึ่งข้อเท็จจริงบริษัทฯ มีภาษีที่ต้องชำระไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๕ แห่งพระราชกำหนดฯ และข้อ ๔ (๒) ของคำชี้แจงกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๙
          ๓. กรณีนำเครดิตชำระเกินยกมาใช้มากกว่าเครดิตภาษีที่มีอยู่จริง สำหรับความผิดที่เกิดขึ้นก่อนเดือนภาษีมกราคม ๒๕๕๙ หากไม่ได้ออกตรวจโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๘๘/๓ แห่งประมวลรัษฎากร ก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ เจ้าพนักงานประเมินไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากรได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกำหนดฯ
เลขตู้ : ๘๑/๔๐๘๐๙
clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Saturday, November 24, 2018

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161