|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค ๐๗๐๒/๗๑๑๓ |
วันที่ |
: ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการหักค่าลดหย่อนสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนผู้สูงอายุตามโครงการสละสิทธิการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดยสมัครใจ |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒) ฯ |
ข้อหารือ |
คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เห็นชอบให้กระทรวงการคลังดำเนินโครงการฯ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้ในการดำรงชีพอย่างเพียงพอและได้ใช้สิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่ในปัจจุบันบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุหน่วยงาน ก. เห็นว่า การกำหนดให้ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามโครงการฯ สามารถนำเงินบริจาคไปหักลดหย่อนในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเป็นการสนับสนุนให้มีการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามโครงการฯ จึงขอหารือว่า ปัจจุบัน ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามโครงการฯ สามารถนำเงินบริจาคดังกล่าวไปหักลดหย่อนในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้หรือไม่ และมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้สิทธิหักลดหย่อนสำหรับเงินบริจาคดังกล่าวอย่างไร
|
แนววินิจฉัย |
กองทุนผู้สูงอายุตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุได้รับการประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามข้อ ๒ จัตวา ของประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษา ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา ๓(๔)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๕๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังนั้น หากผู้มีเงินได้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แก่กองทุนผู้สูงอายุตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุ ผู้มีเงินได้ย่อมมีสิทธินำหลักฐานการรับเงินบริจาคของกองทุนผู้สูงอายุตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุมาเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามมาตรา แห่งประมวลรัษฎากร
|
เลขตู้ |
: ๘๐/๔๐๔๙๓ |

|
|
Last update : Saturday, December 16, 2017
|
|
|
|