พระราชกฤษฎีกา
กำหนดประเภท
อัตรา และเงื่อนไขในการหักค่าชดเชย
รายจ่ายที่เป็นทุนเกี่ยวกับภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
พ.ศ.
๒๕๑๖
-------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ
วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๖
เป็นปีที่ ๒๘ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ ๙๕ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา
๑๖ แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕ และมาตรา ๒๖ (๗)
แห่งพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้
ดังต่อไปนี้
มาตรา
๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า
"พระราชกฤษฎีกากำหนดประเภท อัตรา
และเงื่อนไขในการหักค่าชดเชยรายจ่ายที่เป็นทุนเกี่ยวกับภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
พ.ศ. ๒๕๑๖"
มาตรา
๒
พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา
๓ ให้ยกเลิกความใน (๖) ของข้อ ๒
แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๕ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(๖)
รายจ่ายที่เป็นทุนอย่างอื่นซึ่งมิใช่ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) และซึ่งมิใช่เป็นรายจ่ายที่เป็นทุนเพื่อการได้มาซึ่งที่ดิน
(ก)
รายจ่ายที่เป็นทุนที่จ่ายไปเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ร้อยละ ๒๐ ทีมีรูปร่าง
(ข)
รายจ่ายที่เป็นทุนนอกจากตาม (ก) เฉพาะที่จ่ายไป ร้อยละ ๒๐ สำหรับแปลงสำรวจที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนดว่า
เป็นแปลงสำรวจในทะเลที่มีน้ำลึกเกินสองร้อยเมตร
ตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม
(ค)
รายจ่ายที่เป็นทุนนอกจากตาม (ก) และ (ข) ร้อยละ ๑๐"
มาตรา
๔ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของข้อ ๓
แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๕ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
๒๕๑๕และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"(๓)
ในกรณีที่มีการโอนกิจการปิโตรเลียม ให้บริษัทผู้รับโอนถือเอามูลค่าต้นทุนสุทธิของบริษัทผู้โอนมาหักค่าชดเชยได้เสมือนหนึ่งว่ามิได้มีการโอนกิจการปิโตรเลียม
แต่ทั้งนี้
(ก)
ถ้าค่าตอบแทนที่บริษัทผู้รับโอนจ่ายแก่บริษัทผู้โอนต่ำกว่ามูลค่าต้นทุนสุทธิของบริษัทผู้โอน
ให้บริษัทผู้รับโอนถือเอามูลค่าต้นทุนสุทธิมาหักได้เพียงเท่าค่าตอบแทนที่จ่ายไป
ถ้ามีรายจ่ายที่เป็นทุนหลายรายการ
ให้เฉลี่ยค่าตอบแทนนั้นตามส่วนของมูลค่าต้นทุนสุทธิของ
รายจ่ายที่เป็นทุนแต่ละรายการ
(ข)
ถ้าค่าตอบแทนที่บริษัทผู้รับโอนจ่ายแก่บริษัทผู้โอนสูงกว่าผลบวกของมูลค่าต้นทุนสุทธิกับผลขาดทุนประจำปีคงเหลือของบริษัทผู้โอน
ให้บริษัทผู้รับโอนนำส่วนเกินมาหักได้
โดยถือว่าส่วนเกินนั้นเป็นรายจ่ายที่เป็นทุนอย่างอื่นตามข้อ
๒ (๖) (ค)
ความใน
(ก) และ (ข) ไม่ใช้บังคับแก่กรณีที่เป็นการโอนสัมปทานตามมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔"
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
สัญญา
ธรรมศักดิ์
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ
เนื่องจากรัฐบาลได้พิจารณาเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๕
ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์
พ.ศ. ๒๕๑๕ ว่าด้วยการกำหนดประเภท อัตรา
และเงื่อนไขในการหักค่าชดเชยรายจ่ายที่
เป็นทุนเกี่ยวกับภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
โดยเพิ่มอัตราการหักค่าชดเชยรายจ่ายที่เป็นทุนเฉพาะที่
จ่ายไปสำหรับแปลงสำรวจที่กรมทรัพยากรธรณีกำหนดว่าเป็นแปลงสำรวจในทะเลที่มีน้ำลึกเกิน
สองร้อยเมตรเพื่อส่งเสริมให้ผู้รับสัมปทานรีบสำรวจปิโตรเลียม
และมิให้นำวิธีการบางอย่าง
ในการหักค่าชดเชยมาใช้บังคับแก่การโอนสัมปทานที่ไม่ต้องขอรับอนุญาต จึงจำเป็นต้องตรา
พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ขึ้น
[รก. ๒๕๑๖/๑๕๗/๕๘๖/๔ ธันวาคม ๒๕๑๖]