1. นาย ก. ลูกจ้างประจำสำนักงานเทศบาล มิใช่ลูกจ้างประจำตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง พ.ศ. 2519 กรณีนายประกอบฯ ถึงแก่ความตายในระหว่าง
รับราชการ เงินบำเหน็จที่สำนักงานเทศบาลจ่ายให้แก่ทายาทของนายประกอบฯ ไม่เป็นเงินมรดกของผู้ตายเพราะมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้ตายมีอยู่ขณะที่ถึงแก่ความตาย แต่เงินบำเหน็จนี้เข้าลักษณะเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ทายาทของผู้ตาย
มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเงินได้พึงประเมินดังกล่าวของผู้ตาย ตามมาตรา 57 ทวิ วรรคหนึ่ง
แห่งประมวลรัษฎากร
2. นาย ค. พนักงานเทศบาลสำนักงานเทศบาล มิใช่ข้าราชการหรือข้าราชการ
พลเรือน ตามความหมายในพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 เงินบำเหน็จที่ได้รับจึงไม่เข้าลักษณะเป็นบำเหน็จตกทอด
อันจะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(12) แห่งประมวลรัษฎากร เพราะบำเหน็จตกทอดอันจะได้รับยกเว้นตามมาตรานี้ ผู้ถึงแก่ความตายจะต้องเป็นข้าราชการและ
เป็นการจ่ายให้ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการขอรับและจ่ายบำเหน็จบำนาญข้าราชการเท่านั้น เงินบำเหน็จที่สำนักงานเทศบาลจ่ายให้แก่ทายาทของนาย ค. เข้าลักษณะเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ทายาทของผู้ตายมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเงินได้พึงประเมินดังกล่าวของผู้ตาย ตามมาตรา 57 ทวิ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร
|