เลขที่หนังสือ

: กค 0706/3082

วันที่

: 20 เมษายน 2548

เรื่อง

: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการเปลี่ยนชื่อตลาดหลักทรัพย์ใหม่

ประเด็นปัญหา

: มาตรา 4(1) แห่งพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 387) พ.ศ. 2544

          ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีนโยบายเปลี่ยนชื่อ “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (Market for Alternative Investment)” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)” ตามร่างข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปลี่ยนคำว่า “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” พ.ศ. 2548 โดยการเปลี่ยนชื่อดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับภายในเดือนเมษายน 2548 ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเข้าใจว่า ภายหลังจากที่ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปลี่ยนคำว่า “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” พ.ศ. 2548 มีผลใช้บังคับแล้ว ภาระภาษีของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว จะมีผลดังต่อไปนี้

          (1) บริษัทที่หลักทรัพย์จดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” ก่อนที่ข้อบังคับ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปลี่ยนคำว่า “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์

เอ็มเอไอ” พ.ศ. 2548 จะมีผลใช้บังคับยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 421) พ.ศ. 2547 ต่อไป

          2) บริษัทที่นำหลักทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai)” ภายหลังจากที่ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปลี่ยนคำว่า “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” พ.ศ. 2548 มีผลใช้บังคับ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดอัตราภาษี

เงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 387) พ.ศ. 2544 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 421) พ.ศ. 2547 เช่นเดียวกัน

          ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอหารือว่า ความเข้าใจดังกล่าวถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

          กรณีตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีนโยบายเปลี่ยนชื่อ“ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” ตามร่างข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปลี่ยนคำว่า “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” เป็น “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” พ.ศ. 2548 ไม่ทำให้สิทธิประโยชน์ในการ

ลดอัตราภาษีเงินได้ของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น บริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์ใหม่” หรือบริษัทที่นำหลักทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ” ตามข้อเท็จจริงจะได้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ และคงให้จัดเก็บในอัตราร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิต่อไป ตามมาตรา 4(1) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 387) พ.ศ. 2544

เลขตู้

: 68/33373