ข้อหารือ | : บริษัทฯ ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ได้รับจ้างก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม 1 และ 2 ให้แก่ ผู้ว่าจ้างที่ 1 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 465,335,329.01 บาท และได้รับก่อสร้างคลับเฮาส์ให้แก่ ผู้ว่าจ้างที่ 2 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 617,103,329.01 บาท บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างคอนโดมิเนียม และคลับเฮาส์ดังกล่าวแล้วเสร็จและส่งมอบให้แก่ผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 แล้ว แต่ผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ยังคงค้างชำระหนี้ค่าก่อสร้างดังกล่าวเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 580,694,143.84 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2538 บริษัทฯ และผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ได้ทำสัญญาประนีประนอมโดยจดทะเบียน จำนองที่ดินเป็นประกัน ปรากฏว่า ผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมได้ บริษัทฯ จึงได้ฟ้องเป็นคดีแพ่งให้ผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ชำระหนี้ที่ค้างชำระซึ่งประกอบด้วยค่าจ้างและ ดอกเบี้ยกรณีผิดสัญญาประนีประนอม และเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2544 และวันที่ 3 ธันวาคม 2544 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ตามลำดับ บริษัทฯ จึงยื่นคำขอรับ ชำระหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการของผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอรับชำระ หนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2546 บริษัทฯ ตกลงขายและโอนหนี ้ค่าบริการรับจ้างก่อสร้างพร้อมดอกเบี้ยของผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ให้แก่บริษัท อ. ซึ่งเป็นนิติบุคคล ต่างประเทศ จำนวนเงินทั้งสิ้น 220,000,000 บาท บริษัทฯ จึงขอทราบว่า 1. กรณีผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ชำระหนี้ให้แก่บริษัท อ. ผู้รับโอนหนี้ บริษัทฯ จะต้องเรียกเก็บภาษี มูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 หรือไม่ และผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 จะต้องหัก ภาษี ณ ที่จ่ายพร้อมทั้งออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในนามของบริษัทฯ หรือไม่ 2. กรณีบริษัทฯ ขายและโอนหนี้ค่าบริการรับจ้างก่อสร้างของผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 ให้แก่ บริษัท อ. ถือเป็นการโอนสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมูลหนี้ค่าก่อสร้าง (มูลหนี้เดิม) ที่ผู้ว่าจ้างที่ 1 และ 2 เป็นหนี้บริษัทฯ อยู่ ทั้งภาระหน้าที่และความรับผิดต่อภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรของ บริษัทฯ ไม่สามารถโอนขาดให้แก่บริษัท อ. ผู้รับโอนได้ การโอนหนี้ดังกล่าวจึงไม่เข้าลักษณะเป็น การขายหรือการให้บริการ ตามมาตรา 77/1(8) และ (9) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องเรียก เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกใบกำกับภาษีให้แก่บริษัท อ. ความเข้าใจของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่ |