ข้อหารือ | : บริษัทจำกัด(บริษัท ก) ประกอบกิจการขายรถยนต์ ขายอะไหล่ และบริการซ่อมรถยนต์ มีรอบระยะเวลาบัญชีตามปีปฏิทิน เมื่อปี พ.ศ. 2538 บริษัท ก ได้นำเงินไปลงทุนโดยการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดอีกแห่งหนึ่ง (บริษัท ข) ซึ่งมีทุนจดทะเบียน จำนวน 100,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 10,000,000 หุ้น หุ้นละ 10 บาท โดยบริษัท ก ได้เข้าชื่อซื้อหุ้นไว้ จำนวน 3,000,000 หุ้น ชำระค่าหุ้นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 3 บาท ต่อมาภายหลังบริษัท ข ได้มีมติเรียกให้ผู้ถือหุ้นชำระค่าหุ้นส่วนที่เหลือในราคาหุ้นละ 7 บาท รวมเป็นเงินค่าหุ้นที่บริษัท ก ต้องชำระให้แก่บริษัท ข เป็นจำนวน 21,000,000 บาท แต่เนื่องจากบริษัท ก มีความจำเป็นต้องนำเงินไปใช้ในการก่อสร้างสาขาเพิ่มเติมประกอบกับประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน บริษัท ก จึงยังมิได้ชำระค่าหุ้นส่วนที่เหลือให้แก่บริษัท ข อย่างใด ต่อมาบริษัท ข ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2547 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัท ข ฟื้นฟูกิจการ ต่อมาศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2548 เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ข และให้บริษัท ข เป็นผู้บริหารแผน โดยแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบได้กำหนดให้บริษัท ข ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างทุน ดังนี้ (ก) ให้ลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 100,000,000 บาท เป็น 70,000,000 บาท โดยการลดมูลค่าหุ้นสามัญ จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 7 บาท (ข) ลดทุนโดยการลดจำนวนหุ้นสามัญ (ที่ไม่มีการชำระค่าหุ้น) จากเดิมจำนวน 10,000,000 หุ้น เป็นจำนวน 2,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 7 บาท ทุนจดทะเบียนจากเดิมจำนวน 70,000,000 บาท จึงเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 14,000,000 บาท เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งอนุญาตให้ ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการข้างต้น ต่อมาบริษัท ข ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัท ก ทราบว่า บริษัท ข ได้จดทะเบียนลดทุนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และนายทะเบียนได้เพิกถอนบริษัท ก จากการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ข แล้ว เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 บริษัทฯ จึงขอทราบว่า 1. บริษัท ก มีสิทธินำผลเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างทุนของบริษัท ข ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบ และบริษัท ข ผู้บริหารแผนได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว โดยนายทะเบียนได้เพิกถอนบริษัท ก จากการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ข แล้ว มาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่ อย่างไร 2. กรณีบริษัท ก มีสิทธินำผลเสียหายจากการดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างทุนของบริษัทข ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ บริษัท ก จะต้องนำมาถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการและนายทะเบียนได้เพิกถอนบริษัท ก จากการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ข แล้ว ใช่หรือไม่ อย่างไร |