ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยวิธีปฏฺิบัติการภาษีอากรฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง


ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 154)

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการลดอัตราภาษีเงินได้ของธนาคารพาณิชย์ สำหรับเงินได้จากการรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศเพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศ

-----------------------------------  

         

                          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการลดอัตราภาษีเงินได้ของธนาคารพาณิชย์ สำหรับเงินได้จากการรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศเพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศ ดังต่อไปนี้

 

                        ข้อ 1  ในประกาศนี้

                                 “ธนาคารพาณิชย์” หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์

                                 “การรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศเพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศ” หมายความว่า

                                    (1) การรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศจากต่างประเทศจากบุคคลดังต่อไปนี้ เพื่อนำไปให้กู้ยืมเป็นเงินตราต่างประเทศในต่างประเทศ

                                        (ก) บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทยและมีภูมิลำเนาหรือมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ

                                        (ข) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย

                                        (ค) ธนาคารต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงธนาคารต่างประเทศที่มีสาขาหรือสำนักงานผู้แทนในประเทศไทย

                                        (ง) สาขาในต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์

                                        (จ) นิติบุคคลอื่นที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

                                    (2) การรับฝากหรือการกู้ยืมเงินบาทจากธนาคารต่างประเทศในต่างประเทศหรือสาขาในต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำไปให้กู้ยืมเป็นเงินบาทแก่ธนาคารต่างประเทศในต่างประเทศหรือสาขาในต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์

                                         “รายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้” หมายความว่า รายได้จากการรับฝากหรือการกู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศเพื่อให้กู้ยืมในต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ซึ่งได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้ที่คำนวณจากกำไรสุทธิเหลือร้อยละ 10 ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549

                                        “รายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษีในอัตราปกติ” หมายความว่า รายได้ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ที่คำนวณจากกำไรสุทธิในอัตราร้อยละ 30 ตามประมวลรัษฎากร และรายได้ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งไม่ใช่รายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้ที่คำนวณจากกำไรสุทธิเหลือร้อยละ 10 ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 454) พ.ศ. 2549

 

                        ข้อ 2 การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้

                               (1) การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของธนาคารพาณิชย์ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในมาตรา 65 มาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

                              (2) กรณีธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีทั้งรายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้และรายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษีในอัตราปกติ ให้ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของรายได้แต่ละกิจการแยกต่างหากจากกัน

 

                        ข้อ 3 รายได้และรายจ่ายที่ต้องนำมาคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ

                                รายได้ที่จะนำไปคำนวณกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ หมายถึง รายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชี การคำนวณรายได้และรายจ่ายให้ใช้เกณฑ์สิทธิ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

                               กรณีธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีทั้งรายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้และรายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษีในอัตราปกติ หากรายจ่ายใดไม่สามารถแยกกันได้โดยชัดแจ้งว่า เป็นรายจ่ายของกิจการใดให้ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวเฉลี่ยรายจ่ายตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

                             (1) การคำนวณรายจ่าย เช่น รายจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าก่อสร้างอาคาร

เป็นต้น ให้ธนาคารพาณิชย์เฉลี่ยรายจ่ายนั้นตามส่วนของรายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้และรายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษีในอัตราปกติ

                            (2) กรณีที่ธนาคารพาณิชย์เห็นว่า การคำนวณรายจ่ายโดยวิธีอื่นจะถูกต้องตามความเป็นจริงมากกว่า หรือมีความเหมาะสมมากกว่าการคำนวณตามหลักเกณฑ์ข้อ (1) ธนาคารพาณิชย์อาจขออนุมัติเพื่อนำหลักเกณฑ์อื่นนั้นมาใช้แทนได้ โดยทำเป็นหนังสือแสดงเหตุผลของการขอเปลี่ยนแปลงยื่นต่ออธิบดี และเมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีแล้ว ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่อธิบดีกำหนดเป็นต้นไป

 

                       ข้อ 4 การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้

                               ให้ธนาคารพาณิชย์ยื่นรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล พร้อมทั้งบัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร และยื่นรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลภายในสองเดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี ตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีตามมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

                             กรณีธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีทั้งรายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้และรายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษีในอัตราปกติ ให้ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียอากรเดียวกัน โดยให้แยกกระดาษทำการซึ่งแสดงรายละเอียดการคำนวณกำไรขาดทุนระหว่างรายได้จากกิจการที่ได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้และรายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษีในอัตราปกติออกต่างหากจากกัน

 

                     ข้อ 5 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป

 

      ประกาศ  ณ  วันที่ 7 กันยายน  พ.ศ. 2549

 

ศิโรตม์  สวัสดิ์พาณิชย์

(นายศิโรตม์  สวัสดิ์พาณิชย์)

อธิบดีกรมสรรพากร

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Thursday, August 21, 2014

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161