: บริษัท ค. จำกัดประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องเสียงติดรถยนต์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ลำโพง เครื่องเสียง (พาวเวอร์แอมป์) จอภาพขนาดเล็ก อะไหล่เกี่ยวกับเครื่องเสียง เป็นต้น บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจอภาพขนาด 7 นิ้ว จากบริษัท ม. บริษัทฯ จึงได้สั่งซื้อสินค้าดังกล่าวจากบริษัท น. และบริษัท พ. รวมจำนวน 760 ชิ้น เพื่อจะนำมาส่งมอบให้กับบริษัท ม. แต่เนื่องจากแผนการตลาดของบริษัท ม. เปลี่ยนแปลงไป จึงได้ปฏิเสธการสั่งซื้อสินค้าเป็นเหตุให้บริษัทฯ มีสินค้าคงเหลือค้างสต็อกจำนวน 359 ชิ้น บริษัทฯ จึงได้ติดต่อขายสินค้าให้กับ K ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันในต่างประเทศในราคาชิ้นละ 3,425 บาท (ราคาซื้อชิ้นละ 11,300 บาท) จำนวน 350 ชิ้น เพราะสินค้าในตลาดปัจจุบันใช้จอภาพขนาด 8 นิ้ว สินค้าที่ขายมีราคาตลาดชิ้นละ 4,200 - 5,000 บาท นอกจากนี้บริษัทฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่บริษัท พ. ราคาชิ้นละ 40 เหรียญสหรัฐ เป็นเงินประมาณ 1,261,160 บาท เนื่องจากเมื่อบริษัทฯ ได้สั่งซื้อสินค้าจากบริษัท น. และบริษัท พ. บริษัททั้งสองได้ผลิตสินค้าเพื่อเตรียมส่งมอบให้แก่บริษัทฯ ซึ่งสินค้าดังกล่าวได้สั่งทำและนำเข้ามาเพื่อขายให้กับบริษัทฯ โดยตรงไม่สามารถนำไปขายที่อื่นได้ โดยสัญญาซื้อขายมิได้มีเงื่อนไขหรือข้อตกลงในเรื่องของการยกเลิกสัญญาและผลของการยกเลิกสัญญาในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
1.การขายสินค้าให้กับบริษัทในเครือเดียวกันในต่างประเทศต่ำกว่าราคาทุนถือเป็นการขายสินค้าต่ำกว่าราคาตลาดโดยมีเหตุอันสมควรหรือไม่
2.เงินชดเชยที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้บริษัท พ. บริษัทฯ มีสิทธินำมาลงเป็นรายจ่ายได้หรือไม่
3.การบันทึกรายได้บริษัทฯ จะต้องใช้หลักฐานอะไร
4.การขายสินค้าให้กับบริษัทในเครือเดียวกันในต่างประเทศเป็นการส่งออกที่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ใช่หรือไม |