เลขที่ข่าว  ปชส. 11/2550 

วันที่แถลงข่าว   15   กุมภาพันธ์  2550

เรื่อง    กรมสรรพากรร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จับกุมกลุ่มผู้กระทำการทุจริตขอคืนภาษีเป็นเท็จ

  -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                       ในวันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2550) นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร และผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันเปิดเผยว่า ตามที่กรมสรรพากรได้ให้บริการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งประชาชนได้รับความสะดวกในการได้รับคืนภาษีอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มบุคคลกระทำการทุจริตขอคืนภาษีเป็นเท็จ โดยใช้วิธีส่งคนไปติดต่อกับพนักงานลูกจ้างของบริษัทต่าง ๆ เพื่อขอ ชื่อ-ชื่อสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขบัญชีเงินฝากธนาคาร โดยอ้างว่าจะไปดำเนินการขอคืนภาษีให้ และนำไปยื่นแบบฯ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยสร้างตัวเลขจำนวนเงินภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายขึ้นมาเพื่อขอคืน เมื่อได้รับเงินคืนภาษีก็จะคิดค่าตอบแทน เช่น ได้คืนภาษี 3,000 บาท คิดค่าตอบแทน 500 บาท

                      หรืออีกกรณีหนึ่ง บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สร้างรายจ่าย เช่น ค่านายหน้า ขึ้นมาโดยไม่มีการจ่ายจริง แต่ทำการหักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งไว้ และนำจำนวนเงินค่านายหน้าดังกล่าว ไปเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ทำให้เสียภาษีน้อยลง ขณะเดียวกันก็ขอคืนภาษีของพนักงานทั้ง ๆ ที่พนักงานไม่เคยได้รับค่านายหน้า

                      ซึ่งกรณีดังกล่าว กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบพบการกระทำผิดได้ทุกรายโดยระบบคอมพิวเตอร์ และผู้กระทำความผิดหรือร่วมกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด โดยกรมสรรพากรได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และขณะนี้สามารถจับกุมกลุ่มผู้เป็นตัวการได้แล้ว อยู่ระหว่างดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง หรือพยายามฉ้อโกงเงินภาษีอากรของรัฐ อันเป็นความผิดตามมาตรา 341 มาตรา 80 และ มาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

                      กรมสรรพากร จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า การกระทำการทุจริตขอคืนภาษีเป็นเท็จดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขออย่าได้หลงเชื่อคำชักชวน เพราะท่านอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงได้ และหากผู้ใดพบเห็นพฤติการณ์ หรือเบาะแสของการกระทำผิดดังกล่าว โปรดแจ้งให้กรมสรรพากรได้ที่ ตู้ ปณ. 345 สามเสนใน กรุงเทพฯ 10400 หรือแจ้งทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2272-8000 เพื่อจะได้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

                       นายสาธิต รังคสิริ รองอธิบดีกรมสรรพากรและโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ข้อแนะนำการกรอกรายการในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในกรณีนี้ จะช่วยให้นายจ้างหรือ ผู้ออกหนังสือรับรองฯ ดังกล่าวออกหลักฐานที่ยอมรับได้และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน อีกทั้งยัง อำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างให้สามารถนำข้อมูลที่ถูกต้องไปกรอกแบบ ภ.ง.ด.90 , 91 เพื่อยื่นภาษี ประจำปีได้ง่ายอีกด้วย