ตราพระอุเทนธิราชดีดพิณ เครื่องหมายประจำกรมสรรพากร มีประวัติอยู่ในหนังสือธรรมบทแปล
ภาค 5 เป็นบทตอนหนึ่ง ซึ่งรวมอยู่ในเรื่อง พระนางสามาวดี ซึ่งนายประพัฒน์ ตรีณรงค์ แห่งกรมศิลปากร ได้เขียนไว้ในหนังสือ ศิลปากร ว่า
พระองค์เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าปลันตาปะ แห่งกรุงโกสัมพี เมื่อยังอยู่ใน พระครรภ์ นกหัสดีลิงค์ได้โอบเอา พระราชมารดา ไปปล่อยไว้ที่คาคบไม้ใหญ่ ในป่า และได้ประสูติที่นั่น ยามรุ่งอรุณ จึงมีพระนามว่า อุเทน แปลว่า รุ่งอรุณที่ปราศจาก เมฆหมอก ต่อมาอัลลกัปปดาบส นำไปทำนุบำรุงและ สอนมนต์ชื่อหัสดีกันต์และพิณสามสาย เมื่อดีดพิณ และสาธยายมนต์ สามารถทำให้ช้างหนี หรือช้างเข้ามาหาก็ได้ เมื่อพระเจ้าปลันตาปะ สวรรคตพระเจ้าอุเทนทรงนำกองทัพช้างเข้าสู่กรุงโกสัมพี และได้เสด็จขึ้นครองราชย์ นับแต่บัดนั้น

ตราพระอุเทนธิราชดีดพิณ (ตราเก่า) ที่ใช้ในสมัยเริ่มก่อตั้งกรมสรรพากร เมื่อ พ.ศ. 2459 อันมีพระเจ้าอินทรมนตรีศรีจันทรกุมาร (เอฟ.เอช.ไยล์) เป็นอธิบดีคนแรกนั้น ไม่ปรากฏว่า ใครเป็นผู้ออกแบบ ตราพระอุเทนธิราชดีดพิณที่ปรากฏในดวงตราอากรแสตมป์นั้น นายปลิว จั่นแก้ว แห่งกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เป็นผู้เขียนปรับปรุง จากตราเก่า ส่วนตรา พระอุเทนธิราชดีดพิณ ที่กรมสรรพากร ใช้อยู่ในปัจจุบัน เข้าใจว่าดัดแปลง มาจากตราอากรแสตมป์
ต่อมาพบว่า ได้มีการนำภาพตราสัญลักษณ์ของกรมสรรพากรไปใช้
โดยไม่ได้ รับอนุญาต และไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์อันเกี่ยวกับงานราชการของกรมสรรพากร กรมสรรพากรจึงได้ส่งภาพตราประจำกรมสรรพากร พระอุเทนทราธิราชนั่งดีดพิณ สามสาย ให้กรมศิลปากรตรวจสอบ โดย นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้ทำการปรับปรุง ให้มีความถูกต้องสมบูรณ์ ตามองค์ประกอบเดิม คือ พระอุเทนราชทรงภูษารัตกัมพล (แดง) ดีดพิณวาสุกิมเนมิ ประกอบลายหางคชสีห์ และได้ประกาศ เป็นภาพเครื่องหมาย ประจำของกรมสรรพากรแล้ว ตามประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดภาพ เครื่องหมายราชการ ตามพระราชบัญญัติ เครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 (ฉบับที่ 263) ประกาศ ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2554 เพื่อให้มีกฎหมายคุ้มครอง ในการป้องกัน การละเมิดสิทธิ ในการใช้เครื่องหมายดังกล่าว ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 ตอนพิเศษ 112 ง วันที่ 27 กันยายน 2554 ด้วยแล้ว |