เลขที่ข่าว  ปชส.     30/2550

วันที่แถลงข่าว     18 กันยายน   2550

เรื่อง  กรมสรรพากรจับมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตข้าราชการ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------                 กรมสรรพากรร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ลงนามในบันทึกข้อตกลง สินเชื่อเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำในวันนี้ (18 กันยายน 2550) เพื่อให้ข้าราชการ และลูกจ้างประจำของกรมสรรพากรมีแหล่งเงินกู้สำหรับสินเชื่อสวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออเนกประสงค์ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ

                 นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “ การจัดทำบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้จะเป็นหลักประกันด้วยสวัสดิการที่อยู่อาศัยให้กับข้าราชการและลูกจ้างประจำได้มีทางเลือกใหม่ในการขอรับสินเชื่อจาก บมจ. ธนาคารกรุงไทย ซึ่งให้ดอกเบี้ยในอัตราพิเศษต่ำกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ในขณะนี้ รวมทั้งได้รับสินเชื่ออเนกประสงค์สามารถกู้เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป ”

                 นายปรีชา ภูขำ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจภาครัฐ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า “ สินเชื่อสวัสดิการที่ธนาคารให้บริการกับข้าราชการและลูกจ้างประจำกรมสรรพากร ซึ่งมีจำนวนกว่า 20,000 ราย ได้แก่ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ ซึ่งผู้กู้สามารถกู้เพื่อนำไปซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เพื่อศึกษาต่อ เพื่อซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ และได้เตรียมวงเงินไว้รองรับการปล่อยกู้ในครั้งนี้ จำนวน 1,000 ล้านบาท รวมทั้งยังได้ตั้งวงเงินในส่วนของสินเชื่อกรุงไทยธนวัฏ สำหรับสำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน โดยให้กู้ 10 เท่าของเงินเดือนอีกด้วย โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าขยายสินเชื่อสวัสดิการไว้จำนวน 4,500 ล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปีธนาคารปล่อยสินเชื่อสวัสดิการให้กับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจไปแล้วจำนวน 5,900 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อสวัสดิการทั้งสิ้น 34,900 ล้านบาท และถึงสิ้นปีคาดว่าจะสามารถปล่อยได้อีก 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพราะธนาคารได้ทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยจัดโปรโมชั่นเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับหน่วยงานที่ลงนามใช้สินเชื่อสวัสดิการกับธนาคารและใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยในปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4% ปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1.5% ปีที่ 3 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1% (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 6.875% ต่อปี) ”

                 ความร่วมมือดังกล่าว เป็นอีกก้าวสำคัญที่มุ่งช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้าง กรมสรรพากรผู้มีรายได้น้อยหรือต้องรับภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าได้