ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประFAQ
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 


เลขที่หนังสือ

: กค 0706/พ./9849

วันที่

: 27 กันยายน 2550

เรื่อง

: ภาษีอากร กรณีการโอนกิจการทั้งหมด ตามมาตรา 74(1)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อกฎหมาย

: มาตรา 74(1)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อหารือ

 

          บริษัท ก. จำกัด (บริษัทฯ) ประกอบกิจการโรงแรม และให้เช่าพื้นที่อาคารสรุปข้อเท็จจริงได้ ดังนี้


          1. บริษัทฯ จะโอนกิจการทั้งหมดของบริษัทฯ ให้แก่บริษัท ข. (ผู้รับโอน) คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายกำหนดให้การโอนกิจการมีผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 (Closing Date) และผู้รับโอนจะดำเนินกิจการทั้งหมดที่ได้รับโอนต่อจากบริษัทฯ ตั้งแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป โดยบริษัทฯ จะดำเนินการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีจดทะเบียนเลิกบริษัท ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และเริ่มชำระบัญชีภายในปีเดียวกัน


          2. บริษัทฯ มีสิทธิการเช่าที่ดินตามสัญญาเช่า และกรรมสิทธิ์ในอาคาร 2 หลัง ซึ่งบริษัทฯ ได้ก่อสร้างลงบนที่ดินดังกล่าว ในการโอนสิทธิการเช่าที่ดิน บริษัทฯจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินเป็นลายลักษณ์อักษร จึงจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนกับกรมที่ดินได้ แต่เนื่องจากเจ้าของที่ดินเป็นหญิงชราอายุ 93 ปี มีอาการป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเจ้าของที่ดินไม่สามารถทำนิติกรรมใด ๆ รวมทั้งการอนุญาตให้บริษัทฯ จดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าที่ดิน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของที่ดินร้องขอต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าของที่ดินเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ และแต่งตั้งผู้พิทักษ์ เพื่อกระทำการแทนในการอนุญาตให้บริษัทฯโอนสิทธิการเช่าให้แก่ผู้รับโอน ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทฯ จึงไม่สามารถจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าที่ดินและกรรมสิทธิ์ในตัวอาคารได้ทันในวัน Closing Date เนื่องจากกระบวนการพิจารณาของศาลจะแล้วเสร็จภายในปี 2551ซึ่งเป็นคนละรอบระยะเวลาบัญชีกับปีที่มีการโอนกิจการทั้งหมดของบริษัทฯ


          3. บริษัทฯ ขอหารือข้อกฎหมายภาษีอากร ดังต่อไปนี้


              3.1 เนื่องจากการจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าที่ดินและกรรมสิทธิ์ในอาคารเป็นเพียงการจัดการทางทะเบียนเท่านั้น ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ และผู้รับโอนตกลงโอนกิจการทั้งหมด โดยบริษัทฯ จดทะเบียนเลิกบริษัทในรอบระยะเวลาบัญชีที่โอนกิจการดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นการโอนกิจการทั้งหมด ตามาตรา 74(1)(ค)แห่งประมวลรัษฎากร และไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ถูกต้องหรือไม่


              3.2 หากบริษัทฯ มีสิทธิขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายหรือภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากร และบริษัทฯ ไม่สามารถโอนสิทธิในการขอคืนภาษีดังกล่าวให้กับผู้รับโอนเนื่องจากสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิเฉพาะตัว การที่บริษัทฯ ไม่สามารถโอนสิทธิดังกล่าวให้กับผู้รับโอนได้ จะทำให้บริษัทฯ เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามตามมาตรา 74(1)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องหรือไม่


              4. เนื่องจากบริษัทฯ และผู้รับโอนมีความจำเป็นต้องใช้ราคาทางบัญชีของทรัพย์สินหักด้วยค่าเสื่อมราคา (Book Value) ที่ปรากฏในงบการเงินของผู้โอน ณ เวลา 00.00 นาฬิกา ของวัน Closing Date ซึ่งเป็นเพียงงบทดลองไปก่อน เพราะต้องใช้เวลาประมาณ 45 วัน ในการปิดงบการเงินเมื่อคู่สัญญาปรับปรุงราคาทรัพย์สินสุทธิภายหลังจากที่ปิดงบเสร็จสิ้น โดยหาก ราคาทรัพย์สินสุทธิที่ใช้ในการชำระเงินในวัน Closing Date ต่ำกว่า Book Value ของงบที่แล้วเสร็จ บริษัทฯ จะได้รับชำระ ส่วนต่างเพิ่มเติมจากผู้รับโอน และหากราคาทรัพย์สินสุทธิในวัน Closing Date สูงกว่า Book Value ของงบที่แล้วเสร็จ บริษัทฯ จะต้องจ่ายคืนส่วนต่างให้กับผู้รับโอน นั้น กรณีดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ตามมาตรา 74(1)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องหรือไม่

 

แนววินิจฉัย

 

          1. แม้ว่าบริษัทฯ จะไม่สามารถจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าที่ดินและกรรมสิทธิ์ในอาคารให้กับผู้รับโอนได้ทันในวัน Closing Date เนื่องจากต้องรอกระบวนการที่ขอให้ศาลสั่งให้เจ้าของที่ดินเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ และแต่งตั้งผู้พิทักษ์ และบริษัทฯ จะไม่สามารถโอนสิทธิขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายหรือภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากรให้กับผู้รับโอนได้ เนื่องจากเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้โอนก็ตาม หากการโอนกิจการระหว่างบริษัทฯ กับผู้รับโอนเป็นการโอนกิจการทั้งหมด โดยบริษัทฯ จะเลิกประกอบกิจการและทำการชำระบัญชีเพื่อจดทะเบียนเลิกบริษัท ณกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในรอบระยะเวลาบัญชีที่โอนกิจการ นั้น บริษัทฯ ย่อมได้รับสิทธิประโยชน์ในทางภาษีอากรดังนี้


              1.1 ภาษีเงินได้นิติบุคคล


              บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องตีราคาทรัพย์สินตามราคาตลาดในวันที่จดทะเบียนเลิก แต่ไม่ให้ถือราคาดังกล่าวเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของบริษัทฯ และให้ผู้โอนถือเอาราคาทรัพย์สินนั้นตามราคาที่ปรากฏในบัญชี เพื่อประโยชน์ในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิจนกว่าจะได้มีการจำหน่ายทรัพย์สินนั้นไป ตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 74(1)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร


              1.2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม


              การโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันระหว่างบริษัทฯ กับผู้รับโอนซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ถือเป็นการขาย ตามบทนิยามของคำว่า "ขาย" ในมาตรา 77/1(8)(ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการโอนกิจการดังกล่าวแต่อย่างใด


              1.3 ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์


              การโอนอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ตามมาตรา 5 โสฬส และมาตรา 6(31) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500


          2. กรณีที่ในวัน Closing Date บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องใช้ราคาที่ปรากฏในบัญชีตามงบทดลองไปก่อน เนื่องจากต้องใช้เวลาประมาณ 45 วัน ในการปิดงบการเงิน นั้น หากต่อมาบริษัทฯ และผู้รับโอนทำการปรับปรุงราคาทรัพย์สินสุทธิตามงบการเงินที่เสร็จสิ้น การปรับปรุงดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อภาระภาษีข้างต้นแต่ประการใด

 

เลขตู้

: 70/35342

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Wednesday, March 29, 2017

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161