1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
(1) กรณีนาย ส. ได้รับเงินเป็นค่าสินค้าคงเหลือในการโอนกิจการให้ห้างหุ้นส่วนสามัญ ร. เข้าลักษณะเป็น เงินได้ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณและยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาในอัตราร้อยละ 75 ของเงินได้ หรือเลือกหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควร ทั้งนี้ ตามมาตรา 8(11) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2502
(2) สำหรับการโอนทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีไว้ในการประกอบกิจการ ถือเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(9) แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในบังคับ ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 4(6) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นทางการค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 รวมทั้งต้องเสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว โดยมีสิทธิเลือกที่จะไม่นำ เงินได้ไปรวมคำนวณเสียภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้ว ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ไม่ขอรับเงินภาษี ที่ถูกหักไว้นั้นคืน และไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 376) พ.ศ. 2544
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีนาย ส. ได้โอนกิจการทั้งหมดให้แก่ห้างหุ้นส่วนสามัญ ร. ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การโอนทรัพย์สินและสินค้าคงเหลือดังกล่าว ไม่ถือเป็นการขาย ตามมาตรา 77/1(8) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด
|