ข้อหารือ | บริษัท ก. ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับบริษัท ข. เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2538 มีกำหนดเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2538 และสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548 เพื่อก่อสร้างอาคารบนที่ดินที่เช่า โดยสิ่งปลูกสร้างและสิ่งที่ติดอยู่ในอาคารทั้งหมดจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า เมื่อครบกำหนดการเช่าตามสัญญาหรือเมื่อยกเลิกสัญญา บริษัท ก. ได้คำนวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของอาคาร โดยใช้วิธีเส้นตรง คิดค่าเสื่อมราคา 20 ปี ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าสัญญาเช่าจะระบุอายุการเช่าไว้ 10 ปีก็ตาม เนื่องจากบริษัท ก. มีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยอาคารของบริษัท ก. มีมูลค่า 179,152,351.86 บาท เริ่มหักค่าเสื่อมราคาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2539 ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2548 คิดเป็นมูลค่า 82,019,503.04 บาท เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าอาคารมีมูลค่าทางบัญชีคงเหลือ 99,881,487.10 บาท แต่เนื่องจากกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างและสิ่งที่ติดอยู่ในตัวอาคารทั้งหมดต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าตามเงื่อนไขแห่งสัญญา บริษัท ก. จึงได้บันทึกรายการปรับปรุงโอนมูลค่าคงเหลือของอาคารออกจาก "บัญชีอาคาร" ไปเข้า "บัญชีค่าใช้จ่าย" เมื่อครบกำหนดเวลาเช่า บริษัท ก. ได้รับการต่อสัญญาเช่าอีก 5 ปี ตามสัญญาฉบับลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548 โดยมีสิทธิใช้อาคารประกอบธุรกิจต่อไปตามปกติและมั่นใจว่าจะได้รับการต่อสัญญาเช่าต่อไปอีก
บริษัท ก. จึงหารือว่า มูลค่าคงเหลือของอาคารจำนวน 99,881,487.10 บาท จะถือเป็นรายจ่ายทางภาษีในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2548 ได้ทั้งจำนวน หรือทยอยตัดจ่ายในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีปีต่อ ๆไปเป็นเวลา 10 ปีเศษจนสิ้นมูลค่า หรือต้องปฏิบัติอย่างไรในทางภาษีอากร
|