เลขที่หนังสือ |
: กค 0702/2545 |
วันที่ |
: 5 เมษายน 2553 |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีรายได้จากการจัดประชุมวิชาการ |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา 81(1)(ฎ) มาตรา 65 ทวิ (13) มาตรา 65 ทวิ มาตรา 77/1(10) มาตรา 77/2 และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
สมาคมฯ ได้รับเกียรติจากสมาคมแพทย์โรคตับแห่งเอเชียแปซิฟิก (APASL) ให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมวิชาการ The 21st Asian Pacific Association for the Study of the Liver (APASL 2011) ระหว่างวันที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ในกลุ่มแพทย์เฉพาะทางด้านโรคตับในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก เพื่อเผยแพร่ความรู้วิชาการเป็น วัตถุประสงค์หลัก ซึ่งตามข้อตกลงกำหนดให้มีการจัดประชุมวิชาการโดยหมุนเวียนประเทศเจ้าภาพในกลุ่มประเทศสมาชิก ซึ่งมีทั้งสิ้น 29 ประเทศ สมาคมฯ จะมีรายได้จากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ดังนี้
1. ค่าลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงานจากสมาชิกของสมาคมฯ และจากบุคคลภายนอก
2. เงินสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และเงินบริจาคโดยไม่มีสิ่งตอบแทน
3. รายได้จากการขายพื้นที่ออกนิทรรศการ และจากการสนับสนุนจากบริษัททางการแพทย์
4. รายได้อื่นๆ ได้แก่ ค่าบัตรงานเลี้ยง
สมาคมฯ จึงขอทราบว่า
1. รายได้ตาม 1. - 4. จะต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียเงินได้นิติบุคคลหรือไม่
2. การประชุมวิชาการโรคตับนานาชาติดังกล่าว ถือเป็นการให้บริการทางวิชาการ ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)(ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 12) เรื่อง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือการให้บริการทางวิชาการ ตามมาตรา 81(1)(ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ใช่หรือไม่ |
แนววินิจฉัย |
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
1.1 กรณีสมาคมฯ ที่ประกอบกิจการมีรายได้เข้าลักษณะตามคำนิยาม "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ตาม มาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร สมาคมฯ มีหน้าที่ต้องนำรายได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 2 ของรายได้ก่อนหักรายจ่ายใดๆ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 250) พ.ศ. 2535 แต่ไม่รวมถึง เงินค่าลงทะเบียน หรือค่าบำรุงที่ได้รับจากสมาชิก หรือเงิน หรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการรับบริจาคหรือจากการให้โดยเสน่หาแล้วแต่กรณี มารวมคำนวณเป็นรายได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่งประมวลรัษฎากร
1.2 กรณีสมาคมฯ มีรายได้จากการขายพื้นที่ออกนิทรรศการ และรายได้อื่นๆ ได้แก่ ค่าบัตรงานเลี้ยง สมาคมฯ ต้องนำรายได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
1.3 กรณีสมาคมฯ ได้รับเงินสนับสนุนจาก สสปน. หากสมาคมฯ ต้องกระทำกิจการสิ่งใดให้แก่ สสปน. เพื่อตอบแทนเงินสนับสนุนดังกล่าว สมาคมฯ ต้องนำเงินสนับสนุนที่ได้รับจาก สสปน. มารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แต่หากเงินสนับสนุนดังกล่าวมีลักษณะเป็นเงินรับบริจาคหรือจากการให้โดยเสน่หา สมาคมฯ ไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.1 สมาคมฯ จัดประชุมวิชาการ หากมิใช่เป็นการให้บริการวิจัยหรือให้บริการทางวิชาการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 12)ฯ ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 171) เรื่อง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือการให้บริการทางวิชาการ ตามมาตรา 81(1)(ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 รายได้จากการประชุมดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการให้บริการ ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 ทั้งนี้ ตามมาตรา 77/1(10) มาตรา 77/2 และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร
2.2 เงินสนับสนุนจาก สสปน. หากสมาคมฯ มิได้มีการขายสินค้าหรือให้บริการใดกับ สสปน. เพื่อตอบแทนเงินสนับสนุนที่ได้รับ เงินที่ได้รับดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนอันเกิดจากการขายสินค้าหรือให้บริการ จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ |
: 73/37242 |