ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
รูปเส้นประเกี่ยวกับกรมสรรพากรรูปเส้นประห้องข่าวรูปเส้นประบริการอิเล็กทรอนิกส์รูปเส้นประความรู้เรื่องภาษีรูปเส้นประบริการข้อมูลรูปเส้นประอ้างอิงรูปเส้นประRD Knowledge
รูปมุมซ้าย รูปมุมขวา
ค้นหาขั้นสูง
ความช่วยเหลือ
 
ประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
พระราชกฤษฎีกา
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
กฎกระทรวง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำสั่งกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
คำสั่งกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ระเบียบกระทรวงการคลัง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ระเบียบกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
ข่าวการปรับปรุง
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
Download
iconเมนูด้านซ้าย  
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฏากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ประกาศ/คำสั่ง คสช.
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ยกเว้นเบี้ยปรับ เงินเพิ่มฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลี่ยม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชกำหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยวิธีปฏฺิบัติการภาษีอากรฯ
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อหารือภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
คำพิพากษาฏีกา
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
กฎหมายออกใหม่
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
สรุปสิทธิประโยชน์กฎหมายภาษีอากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
โครงการศึกษาและพัฒนาประมวลรัษฎากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
ข้อมูลการพัฒนากฏหมายของกรมสรรพากร
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560
iconเมนูด้านซ้าย
ว่าง
ว่าง


พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๐๘)
พ.ศ. ๒๕๕๓
---------------------------------------

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เป็นปีที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบัน

                            พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
                            โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ บางกรณี
                            อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                            มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๐๘) พ.ศ. ๒๕๕๓”

                            มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

                            มาตรา ๓ ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง” ระหว่างบทนิยามคำว่า “สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค” และ “การให้บริการสนับสนุน” ในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๐๕) พ.ศ. ๒๕๔๕
                            ““บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง” หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่นำผลการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคไปใช้ในการผลิตสินค้าหรือให้บริการแก่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค วิสาหกิจในเครือ หรือสาขาต่างประเทศของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค”

                            มาตรา ๔ ให้ยกเลิกวรรคสองของมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๐๕) พ.ศ. ๒๕๔๕

                            มาตรา ๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๐/๑ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๐๕) พ.ศ. ๒๕๔๕
                            “มาตรา ๑๐/๑ สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่ได้จดแจ้งตามมาตรา ๑๐ (๔) และได้รับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๘ หรือมาตรา ๙ ไม่มีสิทธิได้รับการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือมาตรา ๑๑/๔”

                            มาตรา ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๑/๑ มาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ มาตรา ๑๑/๔ มาตรา ๑๑/๕ มาตรา ๑๑/๖ มาตรา ๑๑/๗ มาตรา ๑๑/๘ มาตรา ๑๑/๙ มาตรา ๑๑/๑๐ และมาตรา ๑๑/๑๑ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๐๕) พ.ศ. ๒๕๔๕
                            “มาตรา ๑๑/๑ ให้ลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔ มาตรา ๕ หรือมาตรา ๖ ให้แก่คนต่างด้าวซึ่งทำงานประจำสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคในระหว่างการทำงานในประเทศไทยเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่เกินแปดปีไม่ว่าในระหว่างเวลานั้นจะได้เดินทางออกจากประเทศไทยเป็นครั้งคราวหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เฉพาะผู้บริหารระดับสูงหรือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคจดแจ้งต่อกรมสรรพากรตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
                            สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคตามวรรคหนึ่งต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑/๖ หรือมาตรา ๑๑/๗ แล้วแต่กรณี และมีรายได้จากการให้บริการหรือค่าสิทธิตามจำนวนที่กำหนดในมาตรา ๑๑/๒ วรรคสอง
                            มาตรา ๑๑/๒ ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ตาม (ก) ของ (๒) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล แห่งบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากรและคงจัดเก็บในอัตราร้อยละสิบของกำไรสุทธิ ให้แก่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค เป็นเวลาสิบรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันสำหรับรายได้ดังต่อไปนี้
                            (๑) รายได้จากการให้บริการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคแก่วิสาหกิจในเครือที่ตั้งขึ้นในประเทศไทย
                            (๒) ดอกเบี้ยที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือ หรือสาขาต่างประเทศของสำนักงานปฏิบัติการ
ภูมิภาค ทั้งนี้ เฉพาะดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมที่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคได้กู้มาเพื่อให้กู้ยืมต่อ
                            (๓) ค่าสิทธิที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือ หรือสาขาต่างประเทศของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค หรือจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เฉพาะค่าสิทธิที่เกิดจากผลการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่กระทำขึ้นในประเทศไทย
                            สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่จะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับรายได้ตาม (๒) หรือ (๓) ในรอบระยะเวลาบัญชีใด จะต้องมีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นจากการให้บริการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคแก่วิสาหกิจในเครือในต่างประเทศหรือสาขาของตนในต่างประเทศ หรือจากค่าสิทธิที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศหรือสาขาของตนในต่างประเทศ หรือจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เฉพาะค่าสิทธิที่เกิดจากผลการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่กระทำขึ้นในประเทศไทย โดยรายได้จากการให้บริการหรือค่าสิทธินั้นต้องจ่ายจากหรือในต่างประเทศรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของรายได้ทั้งหมดของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค
                            มาตรา ๑๑/๓ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค สำหรับรายได้ที่ได้จากการให้บริการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคแก่วิสาหกิจในเครือที่อยู่ในต่างประเทศ หรือสาขาต่างประเทศของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคเป็นเวลาสิบรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
                            มาตรา ๑๑/๔ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่มีรายได้จากการให้บริการหรือค่าสิทธิตามที่กำหนดในมาตรา ๑๑/๒ วรรคสอง สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นเงินปันผลที่ได้รับจากวิสาหกิจในเครือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศเป็นเวลาสิบรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
                            มาตรา ๑๑/๕ ในการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือ
มาตรา ๑๑/๔ ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีดังต่อไปนี้
                            (๑) กรณีที่รอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือหลังวันที่ได้จดแจ้งการเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคตามมาตรา ๑๑/๖ (๖) ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรก หรือ
                            (๒) กรณีที่มีการจดแจ้งการเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคตามมาตรา ๑๑/๖ (๖) ระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้นับรอบระยะเวลาบัญชีนั้นเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกแม้ว่าจะมีระยะเวลาน้อยกว่าสิบสองเดือนก็ตาม
                            มาตรา ๑๑/๖ สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่จะได้รับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือมาตรา ๑๑/๔ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
                            (๑) มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่สิบล้านบาทขึ้นไป
                            (๒) มีการให้บริการแก่วิสาหกิจในเครือในต่างประเทศหรือสาขาของตนในต่างประเทศไม่น้อยกว่าจำนวนดังต่อไปนี้
                                  (ก) หนึ่งประเทศ ในรอบระยะเวลาบัญชีแรกและที่สอง
                                  (ข) สองประเทศ ในรอบระยะเวลาบัญชีที่สามและที่สี่ และ
                                  (ค) สามประเทศ ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ห้าเป็นต้นไป
                            (๓) มีรายจ่ายดังต่อไปนี้
                                  (ก) รายจ่ายในการดำเนินงานซึ่งเกี่ยวกับกิจการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่จ่ายให้แก่ผู้รับในประเทศไทยไม่น้อยกว่าสิบห้าล้านบาทในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีแต่ไม่รวมถึงค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน รายจ่ายในการดำเนินงานที่จ่ายไปต่างประเทศ ค่าวัตถุดิบ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น ค่าส่วนประกอบ และค่าบรรจุภัณฑ์ หรือ
                                  (ข) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากรที่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคจ่ายให้แก่ผู้รับในประเทศไทย เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าสามสิบล้านบาท ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี แต่ไม่รวมถึงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
                            (๔) มีวิสาหกิจในเครือ หรือสาขาของตนในต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ผู้บริหารและพนักงานปฏิบัติงานในสถานประกอบการอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ต้องตรงตามที่ได้แจ้งต่อกรมสรรพากร
                            (๕) มีพนักงานปฏิบัติงานในสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคซึ่งมีทักษะและความรู้ขั้นต่ำตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
                            (๖) ได้จดแจ้งการเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด โดยต้องจดแจ้งภายในห้าปีนับแต่วันที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดให้มีการจดแจ้ง
                            (๗) ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
                            มาตรา ๑๑/๗ สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่จะได้รับสิทธิตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ และมาตรา ๑๑/๔ ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่สามเป็นต้นไป ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑/๖ และต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ด้วย
                            (๑) มีพนักงานตามมาตรา ๑๑/๖ (๕) ปฏิบัติงานในสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบห้าของจำนวนพนักงานทั้งหมด และ
                            (๒) มีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานในกิจการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ในอัตราไม่น้อยกว่าคนละสองล้านห้าแสนบาทต่อปี เป็นจำนวนอย่างน้อยห้าคน
                            มาตรา ๑๑/๘ สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่ได้จดแจ้งตามมาตรา ๑๑/๖ (๖) เพื่อให้ได้รับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือมาตรา ๑๑/๔ ไม่มีสิทธิที่จะได้รับการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๘ หรือมาตรา ๙
                            สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคจะจดแจ้งการเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคตามมาตรา ๑๐ (๔) และมาตรา ๑๑/๖ (๖) ในเวลาเดียวกันมิได้ และจะได้รับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๘ หรือมาตรา ๙ พร้อมกับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือมาตรา ๑๑/๔ มิได้
                            มาตรา ๑๑/๙ สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑/๖ และต่อมามีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑/๗ ตามที่กำหนด ต่อเนื่องกันตลอดสิบรอบระยะเวลาบัญชีในการลดอัตราหรือยกเว้นภาษีเงินได้ หากปรากฏว่าในรอบระยะเวลาบัญชีที่สิบมีรายจ่ายในการดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคที่จ่ายในประเทศไทยสะสมรวมกันแล้วเกินกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทตลอดสิบรอบระยะเวลาบัญชี ให้ได้รับสิทธิลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือมาตรา ๑๑/๔ อีกห้ารอบระยะเวลาบัญชี
                            มาตรา ๑๑/๑๐ ในกรณีที่ปรากฏว่าสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคขาดคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา ๑๑/๖ หรือมาตรา ๑๑/๗ ในรอบระยะเวลาบัญชีใดให้สิทธิที่จะได้รับการลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๑๑/๒ มาตรา ๑๑/๓ หรือมาตรา ๑๑/๔ สิ้นสุดลง ทั้งนี้ ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรก
                            มาตรา ๑๑/๑๑ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากรให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นเงินปันผลที่ได้รับจากสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคตามมาตรา ๑๑/๖ หรือตามมาตรา ๑๑/๗ แล้วแต่กรณี ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการหรือค่าสิทธิตามมาตรา ๑๑/๒ วรรคสอง”

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
      อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
        นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแก่สำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคและคนต่างด้าวที่ปฏิบัติงานในสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาครวมทั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๐๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อเป็นการสนับสนุนและจูงใจให้มีการลงทุนของบริษัทในรูปแบบการจัดตั้งเป็นสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นอันจะเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการตลอดจนกระตุ้นให้มีการนำเข้าเงินตราจากต่างประเทศและการใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค อีกทั้งเป็นการจูงใจให้ชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารและการให้บริการของสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคเข้ามาทำงานในประเทศไทยอันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการถ่ายทอดความรู้ที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

                            (ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๒๗ ตอนที่ ๖๗ ก วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)

clear-gif

WCAG 2.0 (Level AA)

Last update :
 Thursday, August 7, 2014

 
รูปมุมซ้าย
หน้าหลักรูปเส้นประEnglishรูปเส้นประแผนผังเว็บไซต์รูปเส้นประแนะนำเว็บไซต์รูปเส้นประติดต่อกรมสรรพากรรูปเส้นประ


 
สงวนลิขสิทธิ์โดยกรมสรรพากร : Website Policy : Privacy Policy : Website Security Policy : Disclaimer
 
กรมสรรพากร 90 ซอยพหลโยธิน 7 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 1161