|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค 0702/9655 |
วันที่ |
: 6 ธันวาคม 2554 |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิต |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา 27 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 172)ฯ |
ข้อหารือ |
กรณีการยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิต โดย
มีรายละเอียดสรุปความได้ว่า บริษัทฯ ได้เสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตโดยอาศัยประเด็นการลดหย่อนภาษีเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้
เอาประกันตัดสินใจซื้อประกันชีวิต ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้ตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต และเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีหลัก
เกณฑ์เป็นไปตามข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๗๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ตามข้อ ๒(๖๑) แห่งกฎกระทรวงฉบับที่ ๑๒๖
(พ.ศ.๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และผู้มีเงินได้ใช้สิทธิยกเว้น
ภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตของผู้มีเงินได้แล้ว ต่อมาหากผู้เอาประกันหรือผู้มีเงินได้ เวนคืนกรมธรรม์ หรือยก
เลิกกรมธรรม์โดยไม่จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตต่อไปทำให้กรมธรรม์มีผลสิ้นสุดลง
บริษัทฯ จึงขอหารือว่า
๑. การที่ผู้เอาประกันภัยได้ตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกัน
ชีวิตและเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีหลักเกณฑ์เป็นไปตาม ข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๗๒)ฯ
ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ทำให้สามารถนำเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตไปหักลดหย่อนภาษีได้ซึ่งผู้เอาประกันหรือผู้มี
เงินได้ใช้สิทธิหักลดหย่อนแล้ว ต่อมาผู้เอาประกันหรือผู้มีเงินได้เวนคืนกรมธรรม์หรือยกเลิกกรมธรรม์โดยการไม่จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตอีก
ต่อไปทำให้กรมธรรม์ มีผลสิ้นสุดลง ผู้เอาประกันจะต้องปฏิบัติตามข้อ ๕ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่
๑๗๒)ฯ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หรือไม่
๒. ให้ยกตัวอย่างกรณีที่ผู้เอาประกันหรือผู้มีเงินได้ปฏิบัติ
ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้อ ๒ ตามประกาศฉบับดังกล่าว |
แนววินิจฉัย |
๑. การยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นเบี้ย
ประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ ตามข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๗๒)ฯ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๕๑ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ดังนี้
(๑) กรมธรรม์ประกัน
ชีวิตมีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป กล่าวคือเป็นการจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป และ
(๒) เป็นประกันชีวิต
ที่ได้เอาประกันไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในราชอาณาจักร
(๓) กรณีการจ่ายเบี้ย
ประกันภัยสำหรับความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมไม่สามารถยกเว้นภาษีได้
(๔) กรณีกรมธรรม์
ประกันชีวิตที่มีการรับเงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนคืนในระหว่างอายุกรมธรรม์ ผลประโยชน์ตอบแทนคืนไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของเบี้ย
ประกันชีวิตรายปีหรือสะสมของแต่ละช่วงระยะเวลา หรือสะสมทั้งหมดในช่วงระยะเวลาที่ผู้รับประกันภัยกำหนดให้มีการจ่ายเงินหรือผล
ประโยชน์ตอบแทนคืน
พิจารณาจากหลักเกณฑ์ของข้อ ๒ ตามประกาศอธิบดีกรม
สรรพากรฉบับดังกล่าวแล้ว เห็นว่ากรณีที่ผู้มีเงินได้เวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต หรือยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตก่อนครบกำหนดเวลา
สิบปี โดยไม่จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ต่อไปนั้น ไม่ถือเป็นการจ่ายเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มี
กำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ตามหลักเกณฑ์ข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว หากผู้มีเงินได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษี
สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตไปแล้ว จึงอยู่ในบังคับที่ต้องปฏิบัติตามความในข้อ ๕ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดัง
กล่าวที่จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติม เพื่อเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติมของปีภาษีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีสำหรับ
เงินได้ที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิตไปแล้วพร้อมเงินเพิ่ม ตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร
๒. สำหรับตัวอย่างกรณีที่ได้ปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลัก
เกณฑ์ในข้อ ๒ ตามประกาศฉบับดังกล่าว เช่น
(1) กรมธรรม์ประกัน
ชีวิตที่อายุกรมธรรม์มีกำหนดเวลาไม่ถึงสิบปี
(2) กรมธรรม์ประกัน
ชีวิตที่เอาประกันไว้กับผู้รับประกันที่มิได้ประกอบกิจการประกันชีวิตในราชอาณาจักร
(3) กรมธรรม์
ประกันชีวิตที่มีการรับเงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนคืนทุกปี หรือคืนตามช่วงระยะเวลาที่ผู้รับประกันภัยกำหนด เช่น จ่ายทุก 2 ปี หรือจ่าย
ทุก 5 ปี เป็นต้น เงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนที่จ่ายคืนในระหว่างอายุกรมธรรม์ เกินร้อยละ ๒๐ ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี
(4) กรมธรรม์
ประกันชีวิตที่ทำตั้งแต่ 1 มกราคม 2552 ที่มีความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ (เฉพาะค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่าย
สำหรับความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมดังกล่าว ไม่สามารถยกเว้นภาษีสำหรับเบี้ยประกันภัยดังกล่าวได้)
(5) กรมธรรม์ประกัน
ชีวิตแบบอื่นที่มิได้รับเงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนทุกปี หรือตามช่วงระยะเวลาที่ผู้รับประกันภัยกำหนด เงินหรือผลประโยชน์ตอบแทน
สะสมตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่จ่ายเงินคืนเกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันสะสมในระยะเวลาดังกล่าว เป็นต้น |
เลขตู้ |
: 74/37938 |
| | |