|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค 0702/1829 |
วันที่ |
: 1 มีนาคม 2555 |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา ๗๐ แห่งประมวลรัษฎากร กรณีการจ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาให้ความช่วยเหลือ
ด้านเทคนิคและการให้สิทธิอนุญาต รายบริษัท สยามแอ็บบราซีฟอินดัสทรี จำกัด |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
บริษัทฯ ได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๔ หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา ๗๐ แห่งประมวล รัษฎากร กรณีการจ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการให้สิทธิอนุญาตให้บริษัทต่างประเทศ โดยมีข้อเท็จจริงสรุปได้ดังนี้
๑. บริษัทญี่ปุ่นซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำสัญญาให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการอนุญาต ให้ใช้สิทธิ (Technical Assistance and License Agreement) กับบริษัทฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศไทย
๒. สัญญาดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๒.๑ บริษัทญี่ปุ่น ซึ่งประกอบธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เป็นเจ้าของความรู้พิเศษ ข้อมูล
ประสบการณ์ สิทธิบัตร และการใช้สิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ประสงค์ที่จะถ่ายทอด
ความรู้ ข้อมูล ประสบการณ์ สิทธิบัตร และการใช้สิทธิบัตรเพื่อการผลิต การจัดจำหน่าย และการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
๒.๒ บริษัทญี่ปุ่น อนุญาตให้บริษัทฯ ใช้สิทธิบัตรและข้อมูลทางเทคนิคแบบเด็ดขาด (Exclusive license) ในการผลิต ขาย และใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย และอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้สิทธิแบบไม่เด็ดขาด (Non-exclusive license) เพื่อขายผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนที่กำหนดโดยบริษัทญี่ปุ่นในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทย
๒.๓ ในกรณีที่บริษัทฯ ร้องขอ บริษัทญี่ปุ่นอาจจัดส่งวิศวกรเพื่อให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิคแก่บริษัทฯ ครั้งละไม่เกิน ๒ คน โดยระยะเวลาทั้งหมดจะต้องไม่เกิน ๖๐ วัน สำหรับปีแรกของสัญญา และหากบริษัทฯ ร้องขอ บริษัทญี่ปุ่น จะจัดการอบรมให้ ณ โรงงานของบริษัทญี่ปุ่น
๒.๔ บริษัทฯ ต้องจ่ายค่าสิทธิให้แก่บริษัทญี่ปุ่น ดังนี้
(๑) ค่าสิทธิดำเนินงาน (Running royalty) ในอัตราร้อยละ ๗ ของราคาขายสุทธิของผลิตภัณฑ์ตรา ABC ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายได้
๒) ค่าสิทธิดำเนินงาน ในอัตราร้อยละ ๓ ของราคาขายสุทธิของผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ตรา ABC ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายได้
๒.๕ ในระหว่างที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับ บริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลใดๆ ที่เปิดเผยโดยบริษัทญี่ปุ่นตามสัญญานี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการผลิต การจัดจำหน่าย และการใช้ผลิตภัณฑ์เท่านั้น ในระหว่างที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับและภายหลังจากสัญญานี้สิ้นผล บริษัทฯ ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลที่สามโดยมิได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากบริษัทญี่ปุ่น
๒.๖ ในระหว่างที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับ บริษัทญี่ปุ่นให้สิทธิบริษัทฯ ในการใช้เครื่องหมายการค้าของ บริษัทญี่ปุ่นแบบไม่เด็ดขาดและไม่อาจโอนสิทธิได้ โดยไม่คิดค่าสิทธิ เพื่อวัตถุประสงค์ในการขายและการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์เท่านั้น
๓. บริษัทฯ ได้หารือว่า เมื่อบริษัทฯ จ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าวให้กับบริษัทญี่ปุ่น บริษัทฯ จะมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา ๗๐ แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่ |
แนววินิจฉัย |
เนื่องจากค่าตอบแทนที่เกิดจากการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสัญญาดังกล่าว
เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนเพื่อการใช้หรือสิทธิในการใช้สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า แบบหรือหุ่นจำลอง แผนผัง สูตร
หรือกรรมวิธีลับใดๆ หรือเพื่อข้อสนเทศที่เกี่ยวกับประสบการณ์ทางอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งถือเป็นค่าสิทธิตามข้อ ๑๒ วรรคสาม ของอนุสัญญาระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน
และการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ (อนุสัญญาฯ) และโดยที่การจัดส่งวิศวกรเข้ามา
ในประเทศไทยเพื่อให้คำปรึกษาทางเทคนิคตามที่บริษัทฯ ร้องขอ ยังไม่ถือว่าบริษัทญี่ปุ่นประกอบกิจการในประเทศไทย
ตามมาตรา ๗๖ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ ผู้จ่ายเงินได้ จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่าย
ในอัตราร้อยละ ๑๕ และนำส่งตามมาตรา ๗๐ แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ ๑๒ แห่งอนุสัญญาฯ ประกอบกับพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๐๕ |
เลขตู้ |
: 75/38059 | 
|
|
Last update : Wednesday, March 29, 2017
|
|
|
|