|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค 0702/พ./3267 |
วันที่ |
: 17 เมษายน 2556 |
เรื่อง |
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศตามมาตรา ๘๐/๑(๒) แห่งประมวลรัษฎากร
|
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา 81/1(2) มาตรา 77/2 และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร
|
ข้อหารือ |
บริษัทฯ หารือเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศตามมาตรา ๘๐/๑(๒) แห่งประมวลรัษฎากร โดยมีข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า บริษัทฯ ได้ทำสัญญาให้บริการ ผู้ว่าจ้างต่างประเทศซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยบริษัทฯ ได้ให้บริการแก่ผู้ว่าจ้างต่างประเทศ ดังนี้
๑. การให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาวัสดุ (Material Development Services)
๒. การให้บริการประเมินและควบคุมการผลิตวัสดุ (Material Supply Planning Services)
๓. การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาตัวสินค้า (Product Development Services)
๔. การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบคุณภาพการผลิตตัวสินค้า (Production Services)
๕. การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการขนส่งสินค้า (Logistic Services)
๖. การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการกำหนดต้นทุนการผลิตสินค้า (Costing Services)
๗. การให้บริการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมหรือคุณสมบัติของผู้ผลิตสินค้าก่อนเป็นคู่ค้ากับผู้ว่าจ้างต่างประเทศ (SMP Services)
๘. การให้บริการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ผลิตตามคำสั่งผู้ว่าจ้างต่างประเทศ (Quality Engineering Division Services)
บริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การพิจารณาว่าการให้บริการใดได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๐ ตามมาตรา ๘๑/๑(๒) แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องพิจารณาเป็นรายกิจการหรือรายธุรกรรมบริการแยกออกจากกันไม่ว่าการให้บริการดังกล่าวจะอยู่ภายใต้สัญญาเดียวกันหรือไม่ และไม่ต้องพิจารณาธุรกรรมที่ผู้ว่าจ้างต่างประเทศจะกระทำต่อบุคคลภายนอก และบริษัทฯ เห็นว่า บริการตามข้อ ๑ ข้อ ๓ และข้อ ๖ เป็นบริการที่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๐ ส่วนบริการตามข้อ ๒ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๗ และข้อ ๘ เป็นบริการที่ไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๐ บริษัทฯ จึงขอหารือว่าความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร
|
แนววินิจฉัย |
๑. ในกรณีที่สัญญาให้บริการแยกส่วนของค่าบริการสำหรับการให้บริการที่ได้ใช้บริการในต่างประเทศกับส่วนที่ได้ใช้บริการในประเทศไทย โดยบริษัทฯ ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บค่าบริการแยกตามประเภทที่กำหนดในสัญญานั้น เฉพาะส่วนของค่าบริการสำหรับการให้บริการที่ได้มีการใช้บริการในต่างประเทศที่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๐ ตามมาตรา ๘๐/๑(๒) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ ๒(๑) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๑๐๕)ฯ ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ อย่างไรก็ตาม หากสัญญาการให้บริการระหว่างบริษัทฯ กับผู้ว่าจ้างต่างประเทศ ไม่ได้แยกส่วนของบริการที่ได้มีการใช้บริการในต่างประเทศ บริษัทฯ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๗.๐ ตามมาตรา ๗๗/๒ และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าตอบแทนจากการให้บริการดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้ ไม่ว่าการให้บริการนั้นจะเป็นการให้บริการตามสัญญาเดียวกันหรือไม่
๒. การให้บริการที่ได้รับสิทธิเสียภาษีในอัตราร้อยละ ๐ ตามมาตรา ๘๐/๑(๒) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องเป็นการให้บริการในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศ ดังนั้น หากธุรกรรมระหว่างผู้ว่าจ้างต่างประเทศกับลูกค้าของผู้ว่าจ้างต่างประเทศเป็นผลของการให้บริการในราชอาณาจักรโดยบริษัทฯ ก็ต้องพิจารณาธุรกรรมดังกล่าวด้วย
๓. ค่าตอบแทนสำหรับการให้บริการแก่ผู้ว่าจ้างในต่างประเทศตามสัญญาดังกล่าว อาจพิจารณาได้ดังนี้
๓.๑ การให้บริการเป็นผู้จัดหาโรงงานหรือผู้ผลิตวัสดุในประเทศไทย (Material Development Services) ตามข้อ ๑. การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาตัวสินค้า (Product Development Services) ตามข้อ ๓. และการให้บริการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมหรือคุณสมบัติของผู้ผลิตสินค้าก่อนเป็นคู่ค้ากับผู้ว่าจ้างต่างประเทศ (SMP Services) ตามข้อ ๗. เป็นการให้บริการข้อมูลเพื่อให้ผู้ว่าจ้างต่างประเทศหรือลูกค้าของผู้ว่าจ้างต่างประเทศตัดสินใจว่าจะจ้างโรงงานหรือผู้ผลิตในประเทศไทยหรือไม่ เข้าลักษณะเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๗๗/๒(๑) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๗.๐ ตามมาตรา ๗๗/๒ และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร
๓.๒ การเป็นผู้ดูแล ให้ความช่วยเหลือและประสานงานกับโรงงานหรือผู้ผลิตวัสดุ (Material Supply Planning Services) ตามข้อ ๒. และการให้บริการให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบคุณภาพการผลิตตัวสินค้า (Production Services) ตามข้อ ๔. เป็นการให้บริการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงงานในประเทศไทย เข้าลักษณะเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๗๗/๒(๑) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๗.๐ ตามมาตรา ๗๗/๒ และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร ความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องแล้ว
๓.๓ การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการขนส่งสินค้าผลิตเสร็จออกนอกประเทศ (Logistic Services) ตามข้อ ๕. เข้าลักษณะเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร โดยให้หมายถึง บริการที่ทำในราชอาณาจักรโดยไม่คำนึงว่าการใช้บริการนั้นจะอยู่ในต่างประเทศหรือในราชอาณาจักร บริษัทฯ จึงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๗.๐ ตามมาตรา ๗๗/๒ และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร ความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องแล้ว
๓.๔ การให้บริการให้ความช่วยเหลือในการกำหนดต้นทุนการผลิตสินค้า (Costing Services) ตามข้อ ๖. เป็นการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลเพื่อการกำหนดต้นทุนการผลิตสินค้าเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการควบคุมหรือเจรจาต่อรองค่าจ้างในการผลิตสินค้ากับโรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าในประเทศไทยและต่างประเทศ หากสัญญาระหว่างบริษัทฯ และผู้ว่าจ้างต่างประเทศไม่ได้แยกค่าตอบแทนสำหรับข้อมูลที่ใช้ในการควบคุมหรือเจรจาต่อรองค่าจ้างในการผลิตสินค้ากับโรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศซึ่งเข้าลักษณะเป็นการให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศ ออกจากข้อมูลที่ใช้ในการควบคุมหรือเจรจาต่อรองค่าจ้างในการผลิตสินค้ากับโรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าในประเทศไทย บริษัทฯ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๗.๐ ตามมาตรา ๗๗/๒ และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าตอบแทนจากการให้บริการดังกล่าวทั้งหมด
๓.๕ การให้บริการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ผลิตตามคำสั่งผู้ว่าจ้างต่างประเทศ (Quality Engineering Division Services) ซึ่งบริษัทฯ ทำการอบรมให้แก่โรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าภายในประเทศ ตามข้อ ๘. เข้าลักษณะเป็นการให้บริการในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๗๗/๒(๑) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้นบริษัทฯ จึงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๗.๐ ตามมาตรา ๗๗/๒ และมาตรา ๘๐ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับค่าตอบแทนจากการให้บริการดังกล่าว ความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องแล้ว
|
เลขตู้ |
: 76/38561
| 
|
|
Last update : Wednesday, March 29, 2017
|
|
|
|