|
|
เลขที่หนังสือ |
: กค 0702/พ.3519 |
วันที่ |
: 24 เมษายน 2556 |
เรื่อง |
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขออนุมัติเฉลี่ยภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคาร
|
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา 82/3 และมาตรา 82/6 แห่งประมวลรัษฎากร
|
ข้อหารือ |
๑. บริษัทฯ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๓๙ และได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๘ มีทุนจดทะเบียน ๓๔๐ ล้านบาท ทุนชำระแล้ว ๒๕๕ ล้านบาท บริษัทฯ จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๙ ประกอบกิจการการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกผลิตภัณฑ์จากยางพารา ซึ่งได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ ๐ และรายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นรายได้จากการขายยางพาราในประเทศ บริษัทฯ มีสถานประกอบการจำนวน ๔ แห่ง สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ จังหวัดภูเก็ต สาขาที่ ๑ ตั้งอยู่จังหวัดภูเก็ต สาขาที่ ๒ ตั้งอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสาขาที่ ๓ ตั้งอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช
๒. บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้อง ขออนุมัติเฉลี่ยภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารตามสัดส่วนรายได้ของปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปี ๒๕๕๐ และ ๒๕๕๑ บริษัทฯ ได้มีการก่อสร้างอาคารโรงงานที่สาขาที่ ๒ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสาขาที่ ๓ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อาคารที่ก่อสร้างเป็นอาคารที่ใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งบริษัทฯ ไม่สามารถทำการแบ่งแยกพื้นที่ที่ใช้ในกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ บริษัทฯ จึงทำการเฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคาร โดยเฉลี่ยตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา และสิ้นปีบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงอัตราการเฉลี่ยให้เป็นไปตามรายได้ที่แท้จริงของแต่ละกิจการ ซึ่งบริษัทฯ ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อ ๕ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อตามมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ กรณีภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารเพื่อใช้ในการประกอบกิจการของตนเองซึ่งเป็นกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และเพื่อการอื่นให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของประมาณการการใช้พื้นที่อาคารดังกล่าว และให้นำภาษีซื้อที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของประมาณการการใช้พื้นที่อาคารเพื่อใช้ในการประกอบกิจการของตนเองซึ่งเป็นกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมาหักออกจากภาษีขาย ซึ่งบริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารโดยวิธีอื่นนอกจากที่ประกาศกำหนดไว้ บริษัทฯ จึงยื่นคำร้องเพื่อขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากรในการเฉลี่ยภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา และมีสิทธินำภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของรายได้ของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม สำนักงานสรรพากรพื้นที่ จึงส่งคำร้องของบริษัทฯ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อให้อธิบดีกรมสรรพากรพิจารณาโดยอาศัยอำนาจตามข้อ ๗ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว
|
แนววินิจฉัย |
๑. กรณีบริษัทฯ ก่อสร้างอาคารโรงงานที่สาขาที่ ๓ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคารจากองค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำใหญ่ ตามใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร เพื่อใช้ในการประกอบกิจการของบริษัทฯ ประเภทกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และประเภทกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งไม่สามารถแยกสัดส่วนของการใช้พื้นที่อาคารได้ ภาษีซื้อจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าวจึงใช้ในกิจการทั้งสองประเภท เมื่อบริษัทฯ ไม่สามารถประมาณการการใช้พื้นที่อาคารได้ว่า ส่วนใดใช้สำหรับกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และส่วนใดใช้สำหรับกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงเห็นควรอนุมัติให้บริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารตามสัดส่วนรายได้ของปีที่ผ่านมาของกิจการ และให้นำภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของรายได้ของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามมาตรา ๘๒/๓ และมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ ๒ และข้อ ๗ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ ๒๙)ฯ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
๒. กรณีบริษัทฯ ก่อสร้างอาคารโรงงานที่สาขาที่ ๒ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริษัทฯ ได้ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารต่อองค์การบริหารส่วนตำบล สำหรับการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติม และได้รับอนุมัติให้ทำการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมได้ (อบต. ไม่ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (อ.๑) แต่แจ้งให้ต่อเติมเป็นหนังสือแทน) ซึ่งมีความว่า "องค์การบริหารส่วนตำบล ขอแจ้งทางบริษัท เมืองใหม่ฯ ว่า มีความยินดีและเห็นควรที่บริษัทจะต่อเติม - ขยาย โรงงานได้" เนื่องจากมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้ให้คำนิยามไว้ว่า
"ก่อสร้าง" หมายความว่า สร้างอาคารขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างขึ้นแทนของเดิมหรือไม่
"ดัดแปลง" หมายความว่า เปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพิ่ม ลด หรือขยาย ซึ่งลักษณะ ขอบเขต แบบ รูปทรง สัดส่วน น้ำหนัก เนื้อที่ ของโครงสร้างของอาคาร หรือส่วนต่าง ๆ ของอาคารซึ่งได้ก่อสร้างไว้แล้วให้ผิดไปจากเดิมและมิใช่การซ่อมแซมหรือการดัดแปลงที่กำหนดในกฎกระทรวง
ดังนั้น กรณีที่องค์การบริหารส่วนตำบล ให้บริษัทฯ ต่อเติม - ขยายโรงงาน จึงเข้าลักษณะเป็นการดัดแปลงตามคำนิยามดังกล่าว ไม่ถือเป็นการก่อสร้างอาคารตามข้อ ๕ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๙)ฯ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ บริษัทฯ จะต้องเฉลี่ยภาษีซื้ออันเกิดจากการดัดแปลงอาคารที่นำมาใช้ในกิจการทั้งสองประเภท ตามส่วนของรายได้ของแต่ละกิจการ ตามมาตรา ๘๒/๖ แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว
|
เลขตู้ |
: 76/38607
| 
|
|
Last update : Wednesday, March 29, 2017
|
|
|
|