เลขที่ข่าว ปชส.30/2545

วันที่แถลงข่าว 24 เมษายน 2545

เรื่อง กรมสรรพากรร่วมกับ สวทช. ให้สิทธินิติบุคคลหักภาษีได้ 2 เท่า ของการจ่ายเพื่อการวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรม

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

          กรมสรรพากรร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนา เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสินค้าไทย ขณะนี้มีบริษัทต่าง ๆ ให้ความสนใจยื่นคำขอแล้วถึง 80 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 460 ล้านบาท

          เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2545 ณ ห้องประชุมกรมสรรพากร นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากร และ ดร.ไพรัช ธัชยพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ร่วมกันแถลงถึงผลความคืบหน้าเกี่ยวกับการสนับสนุนของภาครัฐเพื่อผลักดัน โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของภาคเอกชน โดยกำหนดให้การจ่ายค่าวิจัยและพัฒนาให้กับผู้ที่รับทำการวิจัยและพัฒนาที่กรมสรรพากรรับรอง สามารถหักรายจ่ายดังกล่าวได้ 2 เท่า ซึ่งขณะนี้มีผู้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับจ้างทำวิจัยดังกล่าวทั้งสิ้น 36 ราย และในส่วนของ สวทช. จะเป็นผู้ทำหน้าที่พิจารณารับรองโครงการวิจัยและพัฒนาของผู้ว่าจ้างว่ามีเข้าข่ายได้รับสิทธิตามกฏหมายหรือไม่ ขณะนี้มีผู้ยื่นคำขอรับรองจาก สวทช. แล้วทั้งสิ้น 10 ราย จำนวน 80 โครงการ มูลค่า 460 ล้านบาท โดยมีนิติบุคคลบางรายยื่นคำขอทำการวิจัยถึง 30 โครงการ และจากจำนวนโครงการทียื่นขอรับรองเข้ามาดังกล่าว สวทช. ได้ออกหนังสือรับรองแล้ว จำนวน 9 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 13 ล้านบาท และจะเป็นการรับรองให้มากยิ่งขึ้นในลำดับต่อไป

          ผอ. สวทช.กล่าวเพิ่มเติมว่า " ขณะนี้ สวทช. มีความพร้อมเต็มที่ในการออกหนังสือรับรอง โครงการวิจัยและพัฒนา เพื่อนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปหักภาษีได้ถึง 2 เท่า และยังได้จัดทำคู่มือรวบรวมแนวทางข้อกำหนด เงื่อนไข รวมทั้งกฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นิติบุคคลที่สนใจลงทุนทำการวิจัยเกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย"

          อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวในตอนท้ายว่า " การทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สินค้าไทยมีมาตรฐานยิ่งขึ้น จะช่วยส่งเสริมในระยะยาวสามารถส่งไปจำหน่ายแข่งขันกับตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น การนำค่าใช้จ่ายเพื่อการวิจัยมาหักในการคำนวณภาษีได้ถึง 2 เท่านี้ แม้จะทำให้รายได้ของรัฐลดลงไปบ้าง แต่จะเกิดประโยชน์ในระยะยาวต่อผู้ประกอบการและประเทศชาติ "