เลขที่หนังสือ |
: กค 0702/2723 |
วันที่ |
: 26 กุมภาพันธ์ 2558 |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของสามีภริยา |
ข้อกฎหมาย |
: มาตรา ๕๗ ฉ แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ |
๑.เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๓ นาย ส. สามี และนาง จ. ได้จดทะเบียนสมรสกัน และเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๘ นาย ส.และนาง จ. ได้ร่วมกันซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยโฉนดที่ดินได้ระบุชื่อนาย ส.เป็นผู้ซื้อแต่เพียงผู้เดียว เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม
๒.ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ นาย ส.และนาง จ. ได้ทำการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแปลงดังกล่าวไปตามราคาประเมิน จำนวน ๕๔๖,๐๐๐ บาท โดยในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ๒๕๕๖ นาย ส.ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี โดยนำรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมารวมกับเงินเดือน รับรู้รายได้เป็นจำนวน ๔๑๔,๙๖๐ บาท และนาง จ. ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นำรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมารวมกับเงินเดือนเช่นเดียวกัน รับรู้รายได้จำนวน ๑๓๑,๐๔๐ บาท ซึ่งนาย ส.เข้าใจว่า อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวเป็นสินสมรสระหว่างนาย ส.และนาง จ. เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสินสมรสดังกล่าว เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร นาย ส.และนาง จ. สามารถที่จะตกลงแบ่งเงินได้พึงประเมินระหว่างสามีภริยาได้ ตามความในมาตรา ๕๗ ฉ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร
๓.เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗ นาย ส.ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา ดังนี้
๓.๑ การซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของนาย ส.และนาง จ. นั้น เป็นการตกลงใจโดยความยินยอมร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว
๓.๒ เงินที่ใช้ในการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินที่บุคคลทั้งสองเหลือจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้วนำไปจ่ายค่าซื้อบ้าน นาย ส.และนาง จ. ได้นำเงินค่าซื้อบ้านมาจากสินสมรสทั้งสิ้น และสินสมรสดังกล่าวไม่มีการแบ่งแยกทรัพย์สินที่หามาได้ร่วมกันว่าเป็นส่วนของใคร แค่ไหน เพียงใด
๓.๓ นาง จ. ตกลงให้ใส่ชื่อนาย ส.ลงในโฉนดแต่บุคคลเดียว เพราะทั้งคู่ตระหนักดีว่าแม้จะใส่ชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งในโฉนดที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวก็ยังเป็นสินสมรส เพราะเป็นทรัพย์สินที่ร่วมกันซื้อมาระหว่างสามีภริยา
๓.๔ ก่อนการสมรสนาย ส.และนาง จ. ไม่ได้มีการทำสัญญาใดๆ เพื่อตกลงให้การจัดการทรัพย์สินเป็นอื่นนอกเหนือจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สิ่งใดที่ได้มาภายหลังการสมรสให้เป็นไปตามกฎหมายครอบครัว
๓.๕ กรณีการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว เป็นการขายโดยได้รับความยินยอมจากนาง จ. ภริยา โดยมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร ตามหนังสือของนาง จ. ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ |
แนววินิจฉัย |
๑.กรณีตามข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๓ นาย ส.และนาง จ. ได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๘ นาย ส.และนาง จ. นำเงินที่ทำมาหาได้ร่วมกันโดยไม่อาจแยกได้ว่าส่วนไหนเป็นเงินส่วนตัวของนาย ส. หรือนาง จ. ที่แต่ละคนทำมาหาได้ ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยใช้ชื่อนาย ส.เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน ดังนั้น เมื่อเงินที่นำมาซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นสินสมรส ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวย่อมเป็นสินสมรสที่นาย ส.และนาง จ. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันและมีส่วนเท่ากัน ตามมาตรา ๑๔๗๔ (๑) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แม้ว่าในโฉนดที่ดินระบุชื่อนาย ส.แต่เพียงผู้เดียวก็ไม่ทำให้สิทธิในความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมของนาง จ. ต่ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นสินสมรสดังกล่าวสูญสิ้นไป เนื่องจากนาง จ. มีสิทธิร้องขอให้ระบุชื่อของตนเพิ่มเติมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดที่ดินได้ ตามมาตรา ๑๔๗๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประกอบกับการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวนั้น หากมิได้รับความยินยอมจากนาง จ. โดยชัดแจ้ง นาง จ. อาจร้องขอต่อศาลให้พิจารณาเพิกถอนนิติกรรมอันมิชอบนั้นได้ ตามมาตรา ๑๔๘๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
๒.ตามมาตรา ๕๗ ฉ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร "ในการเก็บภาษีเงินได้จากสามีและภริยานั้น ให้สามีและภริยาต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ตนได้รับในระหว่างปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว ตามมาตรา ๕๖" กรณีตามข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ นาย ส.และนาง จ. ได้ร่วมกันขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่บุคคลทั้งสองเป็นเจ้าของร่วมกันและมีส่วนเท่ากันตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 14075 และหนังสือแสดงความยินยอมให้ขายบ้านและที่ดินของนาง จ. ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2556 จึงถือได้ว่า นาย ส.และนาง จ. แต่ละคนได้รับเงินได้พึงประเมินคนละส่วนเท่ากันจากการร่วมกันขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว โดยมิใช่เป็นกรณีที่มีเงินได้พึงประเมิน ที่มิอาจแยกได้อย่างชัดแจ้ง ดังนั้น นาย ส.และนาง จ. จึงต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินจากการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจำนวนคนละกึ่งหนึ่ง ตามมาตรา ๕๗ ฉ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ |
: 78/39537 |