เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/๕๙๘๑ |
วันที่ |
: ๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการประกอบกิจการโรงเรียนเอกชน |
ข้อกฎหมาย |
: พระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ ๒๘๔) พ.ศ.๒๕๓๘ |
ข้อหารือ |
กรณีบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนเอกชนในระบบประเภสามัญศึกษาตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ชื่อโรงเรียน ก. (โรงเรียน) มีค่าตอบแทน และ บริษัทฯ ยังมีรายได้อื่น ๆ ดังนี้
๑. รายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์การเรียน (อุปกรณ์ลูกเสือ เนตรนารี ถุงเท้า) การทำบัตรประจำตัวนักเรียน การทำเอกสารหรือหลักฐานการศึกษาของนักเรียน
๒. รายได้จากการให้บริการบุคคลอื่นที่ไม่ใช่นักเรียน เช่น การให้บริการสระว่ายน้ำ การทำบัตรประจำตัวผู้ปกครอง การจำหน่ายเครื่องแบบนักเรียนที่บุคคลอื่นมาฝากขาย เงินบริจาคเพื่อการให้ใช้สถานที่ของโรงเรียนฯ
๓. รายได้ประเภทดอกผลจากพันธบัตรหรือกองทุนต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้ทำการลงทุนและ รายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินที่ใช้ในกิจการของโรงเรียนฯ เมื่อเสื่อมสภาพแล้ว
ขอหารือว่า เนื่องจากโรงเรียนฯ เป็นนิติบุคคลตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ โรงเรียนฯ จึงไม่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา ๓๙ แห่งประมวลรัษฎากร หากรายได้อื่น ๆ เหล่านี้มีหลักฐานแสดงว่าเป็นของโรงเรียนฯ โรงเรียนฯ ก็ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและไม่มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ อย่างไรก็ดี การที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนฯ และเป็นผู้แทนของโรงเรียนฯ บริษัทฯ จึงมิใช่ผู้ประกอบกิจการโรงเรียนเอกชน หากบริษัทฯ ได้รับเงินได้จากการจัดสรรผลตอบแทนที่ได้จากการดำเนินกิจการของโรงเรียนฯ ตามมาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ และมีรายได้อื่น ๆ ตามที่หารือมา บริษัทฯ ต้องนำผลตอบแทนและรายได้อื่น ๆ นั้นมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๘๔) พ.ศ. ๒๕๓๘ ถูกต้อง หรือไม่ |
แนววินิจฉัย |
กรณีที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนฯ จากกระทรวง ศึกษาธิการตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ โรงเรียนฯ จึงเป็นนิติบุคคลนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาต และบริษัทฯ มีฐานะเป็นผู้แทนของโรงเรียนเอกชนตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว กรณีจึงถือว่า บริษัทฯ มิได้เป็นผู้ประกอบกิจการโรงเรียนเอกชน การที่มาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้กำหนดให้โรงเรียนฯ โดยคณะกรรมการบริหารทำการจัดสรรผลตอบแทนที่ได้
จากการดำเนินการของโรงเรียน ฯ ให้แก่บริษัทฯ ในฐานะผู้รับใบอนุญาตตอบแทนที่ได้รับจัดสรรดังกล่าวจึงเป็นการจ่ายเงินเพื่อตอบแทนการที่บริษัทฯ ดำเนินการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๘๔) พ.ศ. ๒๕๓๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๘๘) พ.ศ. ๒๕๕๘
ส่วนกรณีที่บริษัทฯ มีรายได้อื่น ๆ ตามข้อหารือซึ่งปรากฏตามหลักฐานใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีว่าเป็นของบริษัทฯ หากบริษัทฯ รับรู้รายได้ดังกล่าวเป็นรายได้ของบริษัทฯ กรณีถือว่า เป็นรายได้ที่บริษัทฯ ได้รับเนื่องจากกิจการอื่นนอกจากการประกอบกิจการโรงเรียนเอกชน บริษัทฯ ต้องนำมารวมเป็นรายได้เพื่อการคำนวณกำไรสุทธิ และไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิดังกล่าวตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๒๘๔) พ.ศ. ๒๕๓๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๘๘) พ.ศ. ๒๕๕๘ |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๗๖๗ |