เลขที่หนังสือ |
: ๐๗๐๒/๖๒๘๓ |
วันที่ |
: ๙ สิงหาคม ๒๕๖๑ |
เรื่อง |
: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ |
ข้อกฎหมาย |
: พระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ |
ข้อหารือ |
๑. บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ประกอบกิจการให้บริการเช่าพาเลตสำเร็จรูป (Pallet)
๒. เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บริษัทฯ ได้ลงทุนในทรัพย์สินดังต่อไปนี้
๒.๑ พาเลตสำเร็จรูป มีลักษณะทำด้วยไม้ เป็นแท่นรองรับน้ำหนักบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าเพื่อลดความเสียหายของสินค้าจากแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทก และใช้รองรับสินค้าให้เป็นหน่วยใหญ่เพื่อสะดวกต่อการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย เก็บรักษาและขนส่ง มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ ๕ ปี ถึง ๗ ปี
๒.๒ โปรแกรมคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้ง ซึ่งบริษัทฯ ได้แบ่งชำระเป็น ๓ งวด ๆ ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยงวดที่ ๑ และ ๒ ชำระในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๙ และสำหรับงวดที่ ๓ ชำระในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๖๐
๒.๓ ต่อเติมและปรับปรุงอาคารที่เช่า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าออกแบบตกแต่งภายใน ค่าก่อสร้างงานปรับปรุงภายใน ปูพื้น กั้นห้อง ทำผนัง เพดาน ประตู รวมถึงงานระบบต่าง ๆ เช่น งานระบบไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ งานระบบป้องกันเพลิง งานระบบสุขาภิบาล งานวางท่อโทรศัพท์ และระบบ CCTV เป็นต้น
๓. บริษัทฯ ขอหารือดังนี้
๓.๑ การลงทุนในทรัพย์สินประเภทพาเลตสำเร็จรูป เข้าลักษณะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ หรือไม่ และกรณีที่ผู้เช่าทำพาเลตสูญหาย หรือกรณีที่บริษัทฯ นำพาเลตไปใช้รองสินค้า เป็นเหตุให้พาเลตนั้นถูกส่งออกไปต่างประเทศพร้อมกับสินค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการเรียกเก็บค่าพาเลตดังกล่าวจากคู่สัญญาและนำมารับรู้เป็นรายได้ของบริษัทฯ จะทำให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ สิ้นสุดลงหรือไม่ อย่างไร
๓.๒ การลงทุนในทรัพย์สินประเภทโปรแกรมคอมพิวเตอร์พร้อมติดตั้งเข้าลักษณะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ หรือไม่ และบริษัทฯ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๓.๓ การต่อเติมและปรับปรุงอาคารที่เช่าเข้าลักษณะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ หรือไม่ และค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารที่เช่าที่ได้จ่ายไปในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๙ ต่อเนื่องถึงรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๖๐ โดยบริษัทฯ ได้ทรัพย์สินนั้นมาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ตามประสงค์ในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๖๐ บริษัทฯ จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้หรือไม่ อย่างไร
๓.๔ เนื่องจากบริษัทฯ ยังไม่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ สำหรับการลงทุนในทรัพย์สินประเภทพาเลตสำเร็จรูป และการปรับปรุงอาคารที่เช่าในรอบระยะเวลาบัญชีแรกที่มีสิทธิ จึงขอทราบว่าบริษัทฯ จะยังคงใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เหลือได้หรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย |
๑. กรณีบริษัทฯ ซื้อพาเลตสำเร็จรูประหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ มาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการของบริษัทฯ โดยพาเลตสำเร็จรูปนั้นมีลักษณะทำด้วยไม้ เป็นแท่นรองรับน้ำหนักบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าเพื่อลดความเสียหายของสินค้าจากแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทก และใช้รองรับสินค้าให้เป็นหน่วยใหญ่เพื่อสะดวกต่อการจัดเก็บ เคลื่อนย้าย เก็บรักษาและขนส่ง พาเลตสำเร็จรูปดังกล่าวย่อมเข้าลักษณะเป็นทรัพย์สินประเภทเครื่องมือ เครื่องใช้ตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ หากการลงทุนในพาเลตสำเร็จรูปดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ กล่าวคือ
๑.๑ เป็นทรัพย์สินที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
๑.๒ เป็นทรัพย์สินที่นำมาหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินได้ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร โดยได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การตามประสงค์ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
๑.๓ ไม่เป็นทรัพย์สินที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
๑.๔ ไม่เป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
๑.๕ ต้องเกิดจากการลงทุนที่เกิดจากสัญญา ใบสั่งซื้อหรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกัน แล้วแต่กรณี ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
บริษัทฯ ย่อมมีสิทธินำรายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินประเภทพาเลตสำเร็จรูปที่ได้จ่ายไประหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๕ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินนั้น ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๓ (๑) และข้อ ๔ (๑) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
สำหรับกรณีที่บริษัทฯ ให้บุคคลภายนอกเช่าพาเลต ต่อมาผู้เช่าทำทรัพย์สินที่เช่าสูญหาย หรือกรณีที่บริษัทฯ นำพาเลตไปใช้รองสินค้า เป็นเหตุให้พาเลตนั้นถูกส่งออกไปต่างประเทศพร้อมกับสินค้า โดยบริษัทฯ ได้เรียกเก็บค่าพาเลตดังกล่าวและได้นำมารับรู้เป็นรายได้ของบริษัทฯ ทั้งสองกรณีแล้ว สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ขายพาเลตนั้น โดยบริษัทฯ ไม่ต้องนำเงินได้ที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้วไปรวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิอีก ทั้งนี้ ตามมาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๒. กรณีบริษัทฯ ซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ พร้อมติดตั้งระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยแบ่งชำระเงินเป็น ๓ งวด ๆ ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท งวดที่ ๑ และ ๒ ชำระในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๙ และงวดที่ ๓ ชำระในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๖๐ นั้น หากการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บริษัทฯ ย่อมมีสิทธินำรายจ่ายเพื่อการลงทุนในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้จ่ายไประหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ (จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท) ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๓ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินนั้น ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๓ (๒) และข้อ ๔ (๑) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปในระหว่างวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ (จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท) นั้น หากบริษัทฯ ได้แจ้งแผนการจ่ายเงินสำหรับการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวตามแบบแจ้งโครงการลงทุนและแผนการจ่ายเงินที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่ออธิบดีกรมสรรพากร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามมาตรา ๕ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับข้อ ๗ (๒) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ แล้ว บริษัทฯ ย่อมสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินนั้นเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้เฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๓ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชี
ที่มีการจ่ายเงินไปจริงระหว่างวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ และมาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับข้อ ๒ (๒) ข้อ ๔ (๒) และข้อ ๕ (๒) (ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
๓. กรณีบริษัทฯ ได้ทำการปรับปรุงและต่อเติมอาคารที่บริษัทฯ เช่ามา โดยจ่ายค่าปรับปรุงและต่อเติมอาคารไปในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๙ ต่อเนื่องถึงรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๖๐ นั้น เนื่องจากการปรับปรุงและต่อเติมอาคารดังกล่าวเป็นการทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินและก่อให้เกิดประโยชน์เกินกว่าหนึ่งรอบระยะเวลาบัญชี รายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการปรับปรุงและต่อเติมอาคารย่อมถือเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน ต้องห้ามมิให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทฯ มีสิทธินำไปหักเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาได้ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา ๔ (๑) หรือ (๕) แล้วแต่กรณี แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ ๑๔๕) พ.ศ. ๒๕๒๗
อย่างไรก็ดี เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและต่อเติมอาคารดังกล่าว ประกอบด้วย ค่าออกแบบตกแต่งภายใน ค่าก่อสร้างงานปรับปรุงภายใน ปูพื้น กั้นห้อง ทำผนัง เพดาน ประตู รวมถึงงานระบบต่าง ๆ เช่น งานระบบไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ งานระบบป้องกันเพลิง งานระบบสุขาภิบาล งานวางท่อโทรศัพท์ และระบบ CCTV ดังนั้น การใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงพิจารณาได้ดังนี้
๓.๑ การปรับปรุงและต่อเติมในส่วนที่เป็นงานก่อสร้างภายในอาคาร เช่น การปูพื้น กั้นห้อง ทำผนัง เพดานหรือประตู เป็นต้น หากไม่เข้าลักษณะเป็นการดัดแปลงอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และบริษัทฯ ไม่ต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตหรือแจ้งการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ประกอบกับการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวเกิดจากสัญญาจ้าง ใบสั่งจ้างหรือข้อตกลงในลักษณะทำนองเดียวกันที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และบริษัทฯ ได้จ่ายเงินเพื่อการปรับปรุงและต่อเติมอาคารในส่วนที่ได้กล่าวมาตั้งแต่วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บริษัทฯ ย่อมมีสิทธินำรายจ่ายเพื่อการปรับปรุงและต่อเติมอาคารในส่วนดังกล่าวไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๒๐ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินนั้น ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ (๔) และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๓ (๔) และข้อ ๔ (๑) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
สำหรับค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและต่อเติมอาคารที่ได้จ่ายไปในรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๖๐ นั้น หากบริษัทฯ ได้แจ้งแผนการจ่ายเงินสำหรับการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวตามแบบแจ้งโครงการลงทุนและแผนการจ่ายเงินที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่ออธิบดีกรมสรรพากร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามมาตรา ๕ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับข้อ ๗ (๒) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ แล้ว บริษัทฯ ย่อมสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินนั้นเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้เฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๒๐ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้นดังนี้
(๑) กรณีอาคารนั้นได?เริ่มต?นหักค?าสึกหรอและค?าเสื่อมราคาตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห?งประมวลรัษฎากร มาแล?วก?อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ให?เริ่มใช?สิทธิยกเว?นตั้งแต?รอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจ?ายเงินเพื่อการลงทุนตามจํานวนที่ได?จ?ายไปจริงในระหว?างวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
(๒) กรณีอาคารนั้นยังไม?ได?เริ่มต?นหักค?าสึกหรอและค?าเสื่อมราคาตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห?งประมวลรัษฎากร ให?เริ่มใช?สิทธิยกเว?นตั้งแต?รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต?นหักค?าสึกหรอและค?าเสื่อมราคาของทรัพย?สินตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห?งประมวลรัษฎากร
ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ (๔) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับข้อ ๓ (๒) ข้อ ๔ (๔) และข้อ ๕ (๔) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
๓.๒ การปรับปรุงและต่อเติมในส่วนที่เป็นงานระบบต่าง ๆ เช่น งานระบบไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ งานระบบป้องกันเพลิง งานระบบสุขาภิบาล งานวางท่อโทรศัพท์ และระบบ CCTV เป็นต้น ถือเป็นรายจ่ายเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินตามมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ดังนั้น หากการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๒ วรรคหนึ่ง ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บริษัทฯ ย่อมมีสิทธินำรายจ่ายเพื่อการลงทุนในส่วนที่เป็นงานระบบต่าง ๆ ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เป็นจำนวนร้อยละร้อยตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้ยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๕ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินนั้น ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ และมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกอบกับข้อ ๓ (๑) และข้อ ๔ (๑) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
สำหรับรายจ่ายเพื่อการปรับปรุงในส่วนที่เป็นงานระบบที่บริษัทฯ ได้จ่ายไประหว่างวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ นั้น หากบริษัทฯ ได้แจ้งแผนการจ่ายเงินสำหรับการลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวตามแบบแจ้งโครงการลงทุนและแผนการจ่ายเงินที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่ออธิบดีกรมสรรพากร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามมาตรา ๕ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับข้อ ๗ (๒) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ แล้ว บริษัทฯ ย่อมสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการลงทุนในทรัพย์สินนั้นเป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยให้เฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันของจำนวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นเป็นเวลา ๕ รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน และให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้น
ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจ่ายเงินไปจริงระหว่างวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ทั้งนี้ ตามมาตรา ๓ และมาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๔๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับข้อ ๒ (๒) ข้อ ๔ (๒) และข้อ ๕ (๒) (ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๔)ฯ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
๔. การใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับทรัพย์สินแต่ละประเภทตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร (เว้นแต่เป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ในโครงการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการเร่งรัดการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้เริ่มใช้สิทธิยกเว้นตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีถัดจากรอบระยะเวลาบัญชีที่สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนสิ้นสุดลง) ทั้งนี้ ตามข้อ ๔ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๖๖)ฯ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยให้ใช้สิทธิยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจำนวนเท่ากันตามจำนวนรอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกันตามที่กำหนดไว้ในข้อ ๓ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว ดังนั้น หากบริษัทฯ เลือกที่จะไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการลงทุนในทรัพย์สินข้างต้นในรอบระยะเวลาบัญชีแรกที่มีสิทธิ บริษัทฯ ยังสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๖๐๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เหลือได้ |
เลขตู้ |
: ๘๑/๔๐๗๕๔ |