วันจ่ายสงกรานต์
ในวันจ่ายสงกรานต์
นอกจากเตรียมเครื่องเสื้อผ้าใหม่ๆ ไว้แต่ง เขายังทำขนมกวน
สำหรับทำบุญถวายพระ และแจกชาวบ้าน
ขนมนั้นโดยมากเป็นขนมเปียกข้าวเหนียวแดง
และขนมกะละแมเป็นพื้น
การแจกนอกจากจะเป็นเครื่องแสดงไมตรียังเป็นเรื่องอวดฝีมือด้วยว่าใครกวนขนมได้ดีกว่ากัน
การทำขนมในวันนี้นั้น
ถ้าบ้านไหนเจ้าบ้านเป็นผู้มั่งคั่งก็ต้องกวน
ขนมอย่างนั้นกันเป็นจำนวนมาก
จึงจะพอแจกจ่ายให้สมกับฐานะที่เขากวนในวันสงกรานต์
เพื่อแจกแก่ชาวบ้านเพื่อนบ้าน ก็เพราะ
สมัยนั้นหาซื้อได้ยาก
จึงต้องทำช่วยตัวเองคนแต่ก่อนไม่มีขนมมาขาย
อยากกินก็ต้องทำกินเอง
เหตุนี้ในวันสงกรานต์หรือว่าในงานอะไร
จึงต้องกวนขนมกันเป็นงานใหญ่ สำหรับเลี้ยงพระ
และแจกแก่ผู้ที่นับถือและเพื่อนบ้าน
จึงได้มีการกวนขนมกันในเทศกาลสงกรานต์และตรุษสารท
มีประเพณีสืบกันมาที่ชาวตะวันตกทำเค้กปีใหม่ไปให้กันหรือกำนัลใคร
ที่เรานำแบบอย่าง ชาวตะวันตกมาเพราะสะดวก
ทำบุญตักบาตร
สงกรานต์วันต้นหรือวันมหาสงกรานต์ ชาวบ้านลุกขึ้นแต่ไก่ขัน
เพื่อเตรียม ไปตักบาตรถวายพระ พอหุงหาอาหารเสร็จ
ก็จัดเตรียมอาหารและสิ่งของถวายพระ
บรรจุลงภาชนะมีถ้วยโถโอชามอย่างดี แล้วแต่จะมี
แล้วเอาวางเรียงลงในถาด หรือภาชนะอย่างอื่นๆ
ที่นิยมในท้องถิ่น
เพื่อนำไปทำบุญตักบาตรและเลี้ยงพระประจำหมู่บ้านของตนเรื่องการแต่งตัว
จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มใหม่ ซึ่งเตรียมหาไว้
ก่อนหน้าวันสงกรานต์หลายวัน
โดยเฉพาะหญิงสาวจะได้แต่งตัวให้สวยพริ้ง
เพื่อไปอวดตามวิสัยของคนหนุ่มคนสาวที่รักสวยรักงาม
และหญิงสาวพวกนี้ และที่เป็นคนยกเครื่องไทยธรรมของทำบุญ
หลังจากตักบาตรเสร็จแล้ว
มีเลี้ยงพระฉันเช้าที่ศาลาการเปรียญ
โดยมัคนายกเป็นผู้จัดการเรื่องปูเสื่อสาดอาสนะ
พอพระฉันเสร็จ ยถาสัพพีอนุโมทนาแล้ว
ชาวบ้านก็กลับบ้านกันไป
ก่อพระเจดีย์ทราย
ไม่มีกำหนดแน่นอนว่าจะต้องก่อในวันสงกรานต์ ถึงวันอื่นๆ
ที่อยู่ใกล้เคียงกับ สงกรานต์ ก็มีก่อกัน
และไม่จำเป็นต้องก่อที่ในวัดบางแห่งที่อยู่ใกล้แม่น้ำ
ตอนเหนือๆ ก่อพระเจดีย์ทรายที่หาดทรายในแม่น้ำก็มี เช่น
จังหวัดกำแพงเพชร ในวันก่อ
เขามีทำบุญเลี้ยงพระที่หาดทรายด้วย เรียกกันว่า
ก่อพระทรายนำไหล
เสร็จแล้วก็มีเลี้ยงพระและเลี้ยงดูกันส่วนทางภาคอีสาน
บางแห่งเขาทำบุญสงกรานต์เป็นสองระยะ ระยะแรกทำบุญตักบาตรกลางลานในวันตรุษ
ระยะหลังทำบุญตักบาตรที่ลานบ้านในวันสงกรานต์
ทางอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
มีการทำบุญตักบาตรกลางบ้านเหมือนกัน
คือเลี้ยงพระกันที่สองข้างถนน
จึงเห็นได้ว่าการตักบาตรจะทำกันที่ไหนก็ได้
แล้วแต่สะดวกและนัดกัน ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช
มีการก่อพระเจดีย์ทราย เป็นสองตอน
ตอนที่หนึ่งก่อที่ลานวัดในวันตรุษ
และอีกตอนหนึ่งก่อที่ลานบ้านในวันมหาสงกรานต์
การก่อพระเจดีย์ทรายที่กลางลานบ้านเขาก่อแต่องค์เดียวเป็นส่วนรวม
จะขนาดเล็กขนาดใหญ่ก็แล้วแต่กำลังที่จะไปหาบขนเอาทรายมาได้มากน้อยเท่าไหร่สำหรับก่อ
ทรายที่จะนำมาก่อนั้นเอามาจากลำห้วยลำธารหรือตามหาดทรายในแม่น้ำ
แล้วแต่จะสะดวก การขนทรายก็ไม่ต้องจ้างใครที่ไหน พวกหนุ่มๆ
สาวๆ และเด็กๆ
นั่นแหละเป็นผู้โกยไปขนใส่กระบุงหาบคอนกันมาเวลาเย็น
ปล่อยนกปล่อยปลา
เรื่องปล่อยนกปล่อยปลานั้น ที่ทำกันมากคือปล่อยปลา
เพราะในกรุงเทพฯ ถ้ามีเงินก็หาซื้อเอาไปปล่อยได้สะดวก
ปลาที่ปล่อยโดยมากเป็นปลาชนิดที่เขาไม่กินกัน
เพราะเป็นลูกปลาตัวเล็กๆ จับเอามามากๆ ได้สะดวกเพราะ มันตกคลักจับเอามาได้ก็รวมเอามาขายส่ง
โดยมากเป็นลูกปลาหมอ เพราะมันอดทน
ไม่ตายง่ายเหมือนปลาชนิดอื่น
การแห่ปลา
พวกผู้ชายจะไม่แห่ปลาในตำบลของตน แต่มีประเพณีว่า
ชายตำบลนี้ต้องเข้าร่วมแห่ปลาตำบลโน้นเพื่อเชื่อมสามัคคีกัน
เรื่องปล่อยนกปล่อยปลา
ที่มักทำกันในวันสงกรานต์
เพราะก่อนหน้าวันสงกรานต์เป็นหน้าแล้งอากาศร้อนจัดน้ำแห้งขอดขาดตอนเป็นห้วงๆ
คงเหลือแต่ที่มีแอ่งและหนองน้ำ ปลาก็ตกคลัก
อีกไม่ช้าพอน้ำแห้งหมด ปลาเหล่านั้นก็จะต้องตาย
ชาวบ้านจึงพากันไปจับปลาที่ตกคลัก
ถ้าเป็นลูกปลาจะกินไม่ได้เนื้อได้หนังอะไรก็เลี้ยงไว้ในตุ่มเอาบุญ
แล้วนำไปปล่อยในวันสงกรานต์ จึงเกิดเป็นประเพณีปล่อยปลา
และลามมาถึงปล่อยนกด้วย
บังสุกุลอิฐ
นอกจากปล่อยนกปล่อยปลาในวันสงกรานต์แล้ว
ยังมีประเพณีบังสุกุลอัฐญาติ ผู้ใหญ่
การบังสุกุลนั้นทำแต่ครั้งเดียวจะทำในวันสงกรานต์วันไหนแล้วแต่จะสมัครใจและนัดหมายกัน
โดยมากทำในวันสรงน้ำพระ หรือไม่ก็ทำกันใน
วันท้ายวันสงกรานต์ ถ้าจะทำกันในวันแรกของสงกรานต์
เมื่อพระฉันเพลแล้ว ให้เสร็จธุระกันไปก็ได้
ตามประเพณีแต่ก่อนเขาไม่เอาอัฐิเข้าบ้าน
ถ้าเป็นชาวบ้านมักฝังญาติผู้ใหญ่ไว้ใต้โคนต้นโพในวัด
ฝังไส้ตรงเหลี่ยมไหนรากไหนของต้นโพเขาจำเอาไว้
และนิมนต์พระไปบังสุกุลที่ตรงนั้น
เรื่องบังสุกุลอัฐิในวันสงกรานต์
ถ้าว่าถึงประเพณีชาวฮินดูก็ไม่มี เพราะเมื่อเขาเผาศพแล้ว
ตามปกติก็ทิ้งอัฐิ
และเถ้าถ่านลงในแม่น้ำ
โดยเฉพะแม่น้ำคงคา
เพราะฉะนั้นเรื่องบังสุกุลอัฐิก็คงเป็นประเพณีเดิมของเรา
ไม่ใช่ได้มาจากอินเดีย ในท้องถิ่นเราบางแห่ง
เมื่อถึงวันสงกรานต์ เขามีพิธีบวงสรวงผีปู่ย่าตายาย
ประจำหมู่บ้าน ซึ่งทางภาคอีสานเรียกว่า ผีปู่ตา
และภาคพายัพเรียกว่า ผีปู่ย่า ภาคปักษ์ใต้เรียกว่า ผีตายาย
และผีประจำเมืองคือผีหลักเมือง และ ผีเสื้อเมืองด้วย
ทางภาคกลางมีประเพณีอันเนื่องด้วยสงกรานต์อีกอย่างหนึ่งคือ
ห้ามตักน้ำตำ ข้าวเก็บผักหักฟืน
อันเป็นงานประจำวันครัวเรือนและเป็นงานอยู่ในหน้าที่ของผู้หญิง
จะต้องเตรียมหาสำรองเอาไว้ให้พร้อม
ก่อนถึงวันสงกรานต์
จะได้ไม่กังวล
สรงน้ำ รดน้ำ และสาดน้ำ
การสรงน้ำพระพุทธรูป มีดอกไม้ ธูปเทียน ไปบูชา
แล้วเอาน้ำอบไปประพรมที่องค์พระ
ทำเป็นสังเขปพอเป็นพิธีว่าได้แสดงความเคารพบูชาและสรงน้ำท่านในวันขึ้นปีใหม่แล้ว
เมื่ออัญเชิญพระพุทธรูปมา ก็มีการแห่แหนกันอย่างสนุกสนาน
สรงน้ำพระพุทธรูปแล้วก็มีการสรงน้ำพระสงฆ์
โดยมากมักเป็นสมภารเจ้าวัดเป็นการสรงน้ำจริงๆ
สรงเสร็จครองไตรจีวรใหม่ที่อุบาสกอุบาสิกานำมาถวาย
ท่านก็ขึ้นธรรมาสน์เทศน์อำนวยพรปีใหม่ให้แก่ผู้ที่ไปสรงน้ำ
นอกจากนี้ยังมีการ รดน้ำญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ
เพื่อขอศีลขอพรตามประเพณี
สรงน้ำพระเสร็จแล้ว ก็ชวนกันเล่นสนุก สาดน้ำ
และเลี้ยงกันที่ลานวัด ของที่เลี้ยงมีขนมปลากริมไข่เต่า
และลูกแมงลักน้ำกะทิ ซึ่งชาวบ้านเรี่ยไรออกเงิน
และจัดทำเอามาเลี้ยงกันด้วยความสามัคคี
เหตุที่มีการสรงน้ำ รดน้ำ
และสาดน้ำในวันสงกรานต์ เนื่องมาจากความเชื่อ
ที่ว่าการสาดน้ำ จะช่วยให้ฝนฟ้าตกบริบูรณ์ประการหนึ่ง
น้ำเป็นเครื่องหมายแห่งความอุดมสมบูรณ์
เมื่อมีน้ำการเพาะปลูก ทำไร่ไถนาก็ได้ผล ประการหนึ่ง
และถือกันว่าน้ำเป็นเครื่องชำระมลทินให้สะอาดอีกประการหนึ่ง
เหตุนี้น้ำจึงเป็นสิ่งที่ใช้ในพิธีต่างๆ อาบน้ำ ซัดน้ำ
หรือรดน้ำ เมื่อทำพิธีสมรส อาบน้ำเมื่อตาย
อาบน้ำเมื่อโกนจุก หรือบวชนาค ฯลฯ
รดน้ำดำหัว
เครื่องดำหัวของภาคพายัพ
ที่เขานำไปรดน้ำผู้ใหญ่ในวันพญาวัน
นอกจากดอกไม้ธูปเทียนและผ้าใหม่สำหรับผลัด
เขายังมีหมากพลูไปด้วย
เพราะหมากพลูเป็นเครื่องแสดงความเคารพนับถือและเป็นเครื่องแสดงไมตรีจิตด้วยอีกโสดหนึ่งและยังมีน้ำส้มป่อยและน้ำอบ
น้ำส้มป่อยเป็นของใช้แทนสบู่ที่เมื่อก่อนยังไม่มีสิ่งนี้
สำหรับสระผมและชำระร่างกาย
ผู้ใหญ่เมื่อรับเครื่องดำหัวแล้ว
ก็เอาน้ำส้มป่อยและน้ำอบประพรมบนศีรษะพอเป็นกิริยา
ว่าได้ดำน้ำสระหัวแล้ว ต่อจากนั้นก็ให้ศีลให้พร
กันตามประเพณี
อนึ่งในวันนี้บางคนยังนำเสื้อผ้าของเขาสำรับหนึ่ง
ต่างคนเอาบรรจุลงขันของตน พร้อมด้วยเครื่องบริขาร มีกล้วย
มีอ้อย มีใบขนุน มีใบแก้วเป็นต้น
นำไปตั้งที่ลานวัดภายในมณฑลวงด้ายสายสิญจน์ แล้วพระสงฆ์
จะประพรมเสื้อผ้าเหล่านั้นด้วยน้ำมนต์
เพื่อความบริสุทธิ์ของเสื้อผ้าเพื่อใช้ในปีใหม่
เสร็จแล้วนำกลับมาเก็บไว้อย่างนั้นหลายๆ วัน |